วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Jaguar Land Rover ประกาศเปิดแผนก Special Operations พัฒนารถแรงโดยเฉพาะ

Jaguar และ Land Rover ร่วมกันเปิดแผนกใหม่ล่าสุด “Special Operations” สำหรับการพัฒนาและผลิตรถสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ รวมถึงรถรุ่นพิเศษผลิตเพียงหนึ่งเดียวในโลกเหมือนกับ Jaguar Project 7 และ C-X75

แผนก Special Operations ยังทำหน้าที่ให้บริการและฟื้นฟูรถคลาสสิกของ Jaguar และ Land Rover ตลอดจนการจัดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับ F1 ซึ่งดูแล้วเอาใจลูกค้ากระเป๋าหนักเป็นพิเศษ สำหรับทีมงานของแผนกนี้ประกอบด้วยวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญระดับหัวกะทิทั้งหมด 150 คน

เวบไซต์ Live Life Drive ระบุว่าสำนักงานใหญ่ของ Special Operations ตั้งอยู่ในเมืองเกย์ดอนใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ Jaguar และ Land Rover โดยเวลานี้กำลังเดินหน้าทำโปรเจ็คต์การพัฒนา E-Type รุ่นพิเศษน้ำหนักเบาที่มีข่าวลือว่าค่าตัวอาจทะลุ 1 ล้านปอนด์เลยทีเดียว


Ford จับมือ Samsung พัฒนาแบตเตอรี่เจนเนอเรชั่นใหม่

Ford Motor Company ผนึกกำลัง Samsung SDI ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความประหยัดของรถที่ไม่ใช่ไฮบริดของ Ford ในอนาคต

ทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่ร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดมานาน 10 ปีแล้ว ผลงานล่าสุดเป็นระบบแบตเตอรี่สองพลังหรือ Dual-Battery System ที่เป็นการผสมผสานแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนเข้ากับแบตเตอรี่แบบตะกั่ว-กรด 12 โวลต์ ซึ่งช่วยให้รถที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไปมีประสิทธิภาพการคืนกำลังขณะเบรกและความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับรถไฮบริด



ปัจจุบันระบบคืนกำลังขณะเบรกได้รับการติดตั้งอยู่ในรถไฮบริดของ Ford ช่วยให้แบตเตอรี่สามารถเพิ่มพลังงานระหว่างการเบรกและแปลงพลังงานให้เป็นไฟฟ้าได้ ระบบคืนกำลังขณะเบรกยังทำงานร่วมกับระบบสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติซึ่งช่วยเพิ่มความประหยัดอีกระดับ

“เรากำลังขยายเทคโนโลยีสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติให้ติดตั้งอยู่ในรถ Ford จำนวน 70% ที่จำหน่ายในตลาดทั่วโลก ขณะที่ระบบแบตเตอรี่สองพลังจะช่วยเพิ่มความประหยัดพลังงานในรถของเราได้ ถึงแม้จะอยู่ในขั้นตอนการทำวิจัย แต่แบตเตอรี่ประเภทนี้สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะสั้น” Ted Miller ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย Energy Storage Strategy ของ Ford กล่าว

ขณะเดียวกัน เวบไซต์ Live Life Drive รายงานว่า Ford ยังกำลังพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนน้ำหนักเบามาก ซึ่งจะต่อยอดให้เป็นแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่ติดตั้งในรถไฟฟ้าในอนาคตได้

Ducati คอนเฟิร์ม ตำนาน Retro Bike Ducati Scambler จำหน่ายปี 2015 พร้อมชม VDO Spyshot


สาวก Ducatista ส่วนใหญ่ มักเป็นพวกบ้าความแรง คอสปอร์ต และการขับขี่ในรูปแบบดิบๆ ตามสไตล์เอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ V-Twin แต่ทว่า Ducati ไม่ได้ใส่ใจแต่ลูกค้าในกลุ่มชอบความแรงเท่านั้น แต่เตรียมลุยตลาด คนรักรถแนว Retro อนุรักษ์นิยม ด้วยการรื้อฟื้น Ducati Scambler กลับมาทำไลน์การผลิตใหม่ พร้อมขายในปี 2015

Ducati Scambler ถือเป็นรถสไตล์แบบ Naked Bike ซึ่งมีอายุมายาวนานในยุคเริ่ม 60′
ล่าสุดได้มีข่าวการยืนยันการวางจำหน่ายในช่วงปีหน้า พร้อมคาดการณ์ การเปิดตัวในช่วงสิ้นปีนี้

Ducati Scambler ใหม่ คาดใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ รหัส 796 จาก Monster
และล่าสุดมีภาพ Spyshot คันจริงว่าที่ Ducati Scambler ใหม่นี้ มาได้ยลโฉมยั่วน้ำลาย เหล่าสาวก Retro Bike กันด้วย

สำหรับการเปิดตัว คาดเปิดตัวปลายปีนี้ ที่งาน EICMA และ ต่อเนื่องที่ไทยกับงาน Motor Expo คงต้องมาดูกันยาวๆ อีกราวครึ่งปีว่าจะจริงอย่างที่คาดการณ์กันหรือไม่?

7 ข้อควรรู้ในการครอบครองรถอย่างมีความสุข

การเป็นเจ้าของรถสักคันอาจไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก ด้วยโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมของบรรดาค่ายรถทำให้เราสามารถจับจองรถได้ง่ายดายมากขึ้น แต่การครอบครองและใช้งานรถอย่างมีความสุขนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เพราะต้องมีความรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายตามมามากมาย

เวบไซต์ carlist.my พันธมิตรของเราจากมาเลเซียนำเสนอข้อมูลดีๆ 7 เคล็ดลับการใช้รถอย่างมีความสุขมาฝากกัน

สำรวจความพร้อมทางการเงิน
ก่อนที่จะซื้อรถสักคัน ต้องแน่ใจ 100% ว่าคุณสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถได้อย่างครอบคลุมในระยะยาว เพราะหลังจากคุณจ่ายเงินดาวน์ ก็จะต้องมีเงินผ่อนชำระรายเดือน ค่าบำรุงรักษา ค่าประกันภัย ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมแซม ค่าอะไหล่และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ควรตระหนักว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อคุณขับรถบนท้องถนนและทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมักมีค่าใช้จ่ายตามมาเสมอ จึงต้องเตรียมพร้อมด้านการเงินให้ดี

เรียนรู้กฎหมายจราจร
ถึงแม้ขั้นตอนการสอบใบขับขี่จะมีความละเอียดรัดกุมมากขึ้น แต่เชื่อว่าเมื่อขับรถออกสู่ถนนจริง ผู้ขับหลายคนมักหลงลืมกฎระเบียบที่เคยทำในห้องสอบ การเรียนรู้ป้ายจราจรและเส้นต่างๆ บนท้องถนนถือว่ามีความสำคัญต่อการขับขี่อย่างปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

รู้ว่าควรนำรถเข้าตรวจเช็คเมื่อใด
หากคุณต้องการให้ตัวรถพร้อมใช้งานอยู่เสมอยาวนานหลายปี ควรจะนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คสภาพตามเวลาที่กำหนด การเลื่อนเวลาตรวจเช็คออกไปอาจสร้างความเสียหายให้แก่ตัวรถได้ในระยะสั้นและระยะยาวได้



ดูแลรักษารถให้ดี
ไม่เพียงการดูแลระบบขับเคลื่อนเท่านั้น แต่การรักษาสภาพรูปลักษณ์ภายนอก อย่างการล้างและขัดเคลือบก็มีความจำเป็นเช่นกัน เพราะไม่เพียงทำให้ตัวรถดูดีน่าใช้งาน แต่ยังหมายถึงราคาขายต่อในอนาคตด้วย

จดจำวันที่ต้องต่อพรบ. ภาษี และใบขับขี่
นอกจากการขับรถในชีวิตประจำวัน ผู้ขับขี่ควรจดจำช่วงเวลาที่จะต้องต่ออายุพรบ. ภาษีและใบขับขี่ให้แม่นยำ เพราะทั้งสามอย่างถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก หากอย่างใดอย่างหนึ่งขาดอายุไปจะถูกปรับด้วยจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว

ตรวจเช็คของเหลวและยาง
ตรวจสอบของเหลวภายในรถยนต์ ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรกและอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ยางทั้งสี่เส้น รวมถึงยางอะไหล่ก็ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานโดยเติมแรงดันลมตามที่ระบุไว้ในคู่มือ คุณผู้หญิงอาจปรึกษาเพื่อนชายหรือช่างเทคนิคตามอู่ซ่อมรถใกล้บ้านเพื่อตรวจเช็คตัวรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ตระหนักถึงความปลอดภัย
ในฐานะเจ้าของและผู้ขับขี่รถยนต์ คุณควรตระหนักถึงความปลอดภัยทั้งต่อผู้โดยสารที่นั่งไปด้วยกันและเพื่อนร่วมท้องถนน การขาดความระมัดระวังเพียงเสี้ยววินาทีอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงได้ เคล็ดลับสำคัญในการขับขี่ก็คือ คุณไม่ควรเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไปเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้บนท้องถนน (โดยเฉพาะในเมืองไทย) และควรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

จะดีหรือ? GM พัฒนาแอพฯ สำหรับสแกนป้ายทะเบียนรถเพื่อส่งข้อความหาเจ้าของได้

เชื่อว่าผู้ขับขี่รถหลายคนต้องเคยมีอารมณ์หงุดหงิดกับพฤติกรรมการขับขี่ของเพื่อนร่วมถนนไม่บ้างก็น้อย สิ่งเดียวที่เราทำได้คือการบ่นพึมพัมหรือบางคนอาจระบายออกทางโซเชียลมีเดียมากบ้างน้อยบ้างตามสถานการณ์

แต่ล่าสุด ทีมนักวิจัยของ General Motors ในประเทศจีนได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นล่าสุดที่มีชื่อว่า DiDi ที่เปิดโอกาสให้เราได้ “พูด” กับคู่กรณีโดยตรง โดยผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยท์สามารถสแกนหมายเลขป้ายทะเบียนของรถคันอื่นก่อนจะสามารถส่งข้อความไปหาเจ้าของรถได้ไม่ว่าเจ้าของรถคันนั้นจะดาวน์โหลดแอพฯ นี้หรือไม่

ทันทีที่มีข่าวนี้ออกมา สื่อหลายสำนักพร้อมใจกันรายงานว่า แอพฯ นี้มีความสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี โดยเฉพาะการก่นด่ากันผ่านทางข้อความและการส่งโฆษณาแบบที่ผู้รับไม่ต้องการ ขณะเดียวกัน แอพฯ นี้ยังกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถอีกด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนนในหลายประเทศ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อว่าอีกไม่ช้า GM ต้องออกมาเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างแน่นอน โปรดติดตาม


ครบรอบ 111 ปี Ford เปิดตำนาน Ford Model T รถแห่งศตวรรษ

เนื่องในโอกาสที่ Ford Motor Company มีอายุครบ 111 ปี ในวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2014 นี้ เราจึงมาเฉลิมฉลองกันด้วย การพาเดินทางย้อนเวลาไปยังปี 1908 ที่ “Ford Model T” ซึ่งเป็นรถคันแรกของฟอร์ดได้ถูกผลิตขึ้น



เป็นที่ทราบกันดีว่า ตลอดระยะเวลาหนึ่งศตวรรษ ที่ผ่าน ฟอร์ดเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและกลายมาเป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของ Ford มีจุดเริ่มต้นมาจาก Henry Ford นั่นเอง

Edsel Ford drives his father, Henry, out of the Ford Highland Park Plant in the very last Model T ever made
รถยนต์คันหนึ่งที่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของประวัติศาสตร์รถยนต์ คือ Ford Model T ซึ่งคันแรกถูกผลิตขึ้นในปี 1908 และในปี 1916 55% ของรถยนต์บนท้องถนนก็คือ Ford Model T รุ่นนี้ เหตุผลหลักที่ทำให้ Model T เป็นที่นิยมอย่างมากคือราคาที่ถูกกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับราคาของรถคู่แข่งรายอื่น ในขณะนั้น

Henry Alexander tackiling the UK's highest mountain, Ben Nevis, in a Ford Model T
ในปี 1911 Henry Alexander ได้ขับ Model T ขึ้นยอดเขา Ben Nevis ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักรฯ เพื่อพิสูจน์ความแกร่งของรถ โดยมีอุปสรรคทั้งทางขึ้นเนิน ในสภาวะหิมะตก พื้นหินขรุขระ ตลอดเส้นทาง โดยเขาสามารถขับรถ ขึ้นสู่ยอดเขาได้สำเร็จโดยใช้เวลา 5 วัน

Model Ts under construction at Ford's Piquette Plant, in Detroit, before production was shifted to the moving assembly line at
เดิมที Ford Model T มีจำหน่ายหลากหลายสี แต่เมื่อมีการเปลี่ยนวิธีมาสู่การผลิตแบบสายพานในปี1913 ก็ถูกผลิตแต่เพียงสีดำเพียงสีเดียว เนื่องจากเป็นสีที่แห้งเร็วที่สุด

Ford Model T ถูกผลิตต่อเนื่องยาวนาน 19 ปี และเมื่อโมเดลทีคันสุดท้ายออกจากสายการผลิต ณ โรงงานฟอร์ด Highland Park Plant รัฐมิชิแกน ในวันที่ 26 พฤษภาคม 1927 รวมทั้งสิ้นในสายการผลิตทั้งหมด Model T ได้ถูกผลิตไปแล้วถึง 15 ล้านคันด้วยกัน

By 1916, 55 per cent of all the cars on the road were Model T Fords
ในปี 1999 Global Automotive Elections Foundation ได้ยกให้ Ford Model T เป็น รถแห่งศตวรรษ (Car of the Century)

เปรียบเทียบ Honda Jazz เก่า-ใหม่ มีอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง!

  Honda Jazz 2014 ใหม่ นับจากวันเปิดตัวจนถึงวันนี้ ก็สามารถกวาดยอดจองทะลุเป้าไปได้กว่า 3,000 คันแล้ว  แต่หากใครยังลังเลอยู่ เรามีข้อเปรียบเทียบให้ดูกันว่า Honda Jazz 2014 ใหม่ มีอะไรเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมบ้าง



     เครื่องยนต์และขนาดตัวถัง



     เริ่มจากเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ พร้อมระบบ i-VTEC แต่ Jazz 2014 ใหม่ ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ซึ่งลดลงจากรุ่นเดิม 3 แรงม้า เป็นผลมาจากการปรับชิ้นส่วนภายในให้รองรับเชื้อเพลิง E85 ซึ่งการใช้งานจริงแทบไม่ต่างกัน แถมยังสามารถเติมเชื้อเพลิงที่มาราคาถูกกว่ามากได้อีกด้วย

     ขณะที่ระบบเกียร์เปลี่ยนมาเป็นแบบ CVT ที่เน้นความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์มากขึ้น ขณะที่รุ่นเดิมเป็นแบบอัตโนมัติ 5 จังหวะ ซึ่งให้อารมณ์ในการขับขี่ต่างกันออกไปแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ทางด้านมิติภายนอกของ Jazz 2014 ใหม่ มีความยาวเพิ่มขึ้น รวมถึงระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้น บ่งบอกถึงพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม



     อุปกรณ์ภายใน



     เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของ Jazz 2014 ใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะมีอุปกรณ์ติดรถมาอย่างครบครันเหนือความคาดหมาย ทั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติควบคุมแบบสัมผัส, กุญแจอัจฉริยะทำงานคู่กับปุ่มสตาร์ท, เบาะนั่งสามารถปรับพับได้ถึง 4 แบบ (เพิ่มรูปแบบการพับสำหรับเป็นเตียงนอนขนาดยาวได้), ระบบเกียร์ Paddle Shift ที่พวงมาลัย, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ระบบ ECO Coaching ที่ช่วยปรับน้ำหนักคันเร่งไฟฟ้าและระบบปรับอากาศ เพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหลายเหล่านี้ แม้แต่ในรถขนาดใหญ่กว่าบางรุ่นยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ



     ระบบเครื่องเสียง



     Honda Jazz 2014 ใช้เครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว สามารถเล่น CD MP3 ได้ รองรับการเชื่อมต่อสมารท์โฟนได้ ซึ่งหากเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ไอโฟนแล้ว ยังสามารถใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง Siri ได้อีกด้วย สามารถโทรออก-รับสาย เพื่อการสนทนาผ่านลำโพงของรถได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ พร้อมปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย



     ระบบความปลอดภัย



     ระบบความปลอดภัยใน Jazz 2014 ใหม่ เรียกได้ว่าจัดเต็มเหนือกว่า B-Segment Hatchback จากค่ายญี่ปุ่นในตลาด เพราะมีถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่ง ทั้งคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย นอกจากนั้นยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะถนนเปียก เรียกกันง่ายๆคือช่วยไม่ให้รถหมุนหรือแหกโค้งนั่นเอง,

     ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA โดยหากเราจอดติดอยู่บนทางขึ้นของห้าง ระบบจะช่วยเบรคค้างไว้ เพื่อให้คนขับสามารถเปลี่ยนเท้าไปเหยียบคันเร่งได้โดยรถไม่ไหลลงมา, ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ และกล้องส่องภาพด้านหลังขณะถอยจอด ซึ่งสามารถปรับองศาได้ 3 ระดับ เพื่อให้การถอยจอดง่ายขึ้น

     เห็นไหมล่ะครับว่า Honda Jazz 2014 ใหม่นั้น จัดเต็มจริงๆในแง่ของอุปกรณ์มาตรฐานติดรถ ซึ่งแม้ว่าราคาจะสูงขึ้นกว่าตัวท็อปรุ่นเดิมอยู่เกือบราว 40,000 บาท แต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมานั้นเรียกว่าคุ้มค่ามาก หรือหากเทียบกับรุ่นรองท็อป SV ที่มีส่วนต่างราว 24,000 บาท สิ่งที่ได้ก็แทบไม่ต่างจากรุ่นท็อป SV+ เลย เพียงแต่ตัดถุงลมนิรภัยด้านข้างกับม่านถุงลมนิรภัย และอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆไปเท่านั้น

กินทุเรียนอย่างไรไม่ขัดใจเพื่อน และขนทุกเรียนขึ้นรถ แบบไร้กลิ่น...

 เข้าหน้า "ทุเรียน" แล้ว! ทุเรียนที่เป็นผลไม้ยอดฮิตตลอดกาล ติดอันดับผลไม้ราคาแพง มี "กลิ่น" เป็นเอกลักษณ์ แกะยาก และกินยาก


     และด้วยความที่ทุเรียนมีทั้ง "รูปลักษณ์" และ "กลิ่น" ที่มีเอกลักษณ์มากขนาดนี้ จึงมีทั้ง "คนรัก" และ "คนชัง"

     คนรักทุเรียนบ้างก็ว่า กลิ่นหอมสะดุดจมูก ได้กลิ่นตลาดไหนต้องแวะซื้อ คนชังบ้างกว่า กลิ่นมันเหม็น เวียนหัว ชวนอาเจียน จะกินเข้าไปได้ยังไง ที่สำคัญในครอบครัวเดียว มักมีทั้งคนรักและชังทุเรียน

     คนรักทุเรียนต่างบอกว่า กินทุเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย โดนห้ามเยอะ โรงแรมแถวระยองแทบทุกโรงแรมติดป้าย "ห้ามนำทุเรียนเข้า" แถมบางที่ไปไกลถึงขนาดปรับเงินถ้าฝ่าฝืน ส่วนเพื่อนชาวต่างชาติ แชร์ไอเดียว่า "ไอไม่เข้าใจ ยูกินอะไร ทั้งสีและกลิ่นเหมือน...มากๆ อย่ากินใกล้ๆ ได้มั้ย ไอไม่ชอบเลย"


     "ประชาชาติธุรกิจออนไลน์" เก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากคนใกล้ตัว และตามท้องถนน! ว่าด้วย วิธีการกินทุเรียนให้ไม่รบกวนคนรอบข้าง หรือพูดอีกอย่างได้ว่า เราต้องไม่เคืองกัน เพราะทุเรียน!

     เพื่อนในออฟฟิศใช้วิธีนี้มาแล้ว เริ่มจากจับกลุ่ม "คนรักทุเรียน" 2-3 คน (ห้ามตั้งกลุ่มใหญ่ เดี๋ยวกลิ่นกระจาย) ชวนกันไปซื้อทุเรียน แล้วพากันหาที่นั่งกินคุยกันเพลินๆ แนะนำว่า ต้องเป็นนอกตึกออฟฟิศ และไม่ควรไปกินในร้านอาหารหรือร้านกาแฟติดแอร์ ไปๆ มาๆ กลุ่มคนรักทุเรียนที่ออฟฟิศ ได้ม้านั่งใต้ร่มไม้หน้าออฟฟิศ ได้คุยกันไปกินกันไป ไม่รบกวนใครที่ไม่รักทุเรียน กินแล้วฟิน ก็แยกย้ายไปทำงาน เจอกันใหม่เมื่อใครไปเจอพลูสวยๆ ราคาดีๆ

     ส่วนวิธีกินทุเรียนในบ้านหรือคอนโดฯ ก็ไม่ค่อยต่างกันนัก ส่วนใหญ่กินที่ชานหน้าบ้าน ระเบียงบ้าน/คอนโดฯ ดีที่สุด (ลมเย็นด้วย) กินเสร็จ ก็ค่อยเข้าบ้าน

     อีกเรื่องที่เป็นปัญหาคือ ซื้อทุเรียนกลับบ้าน คนใกล้ตัวเล่าว่า สัปดาห์ก่อนต้องขนทุเรียน 3 ลูก (ยังไม่ปลอกเปลือกหรือแกะพลู) กลับบ้านต่างจังหวัด ผลที่ตามมาคือ กลิ่นทุเรียน 3 ลูกในกระโปรงรถทะลุทะลวงเข้ามาในห้องโดยสาร และที่นั่งกันอยู่ในรถทั้ง 4 คน เวียนหัวจนชวนอาเจียนกันยกใหญ่ แต่ไม่มีทางออกใด นอกจากต้องทน! เพื่อทุเรียนอันโอชะของคนใจรัก

     ดูเหมือนว่า จะขนทุเรียนไปไหนมาไหน มีทางออกอยู่ 2 ทาง

     หนึ่ง เลือกรถปิกอัพขนทุเรียน

     แต่เข้าใจว่าไม่ใช่คนรักทุเรียนทุกคนจะมีปิกอัพขับ จึงมีวิธีที่สอง



     วิธีนี้เพิ่งพบเห็นจากโลกโซเชียลมีเดีย ง่ายจนคาดไม่ถึงว่า แค่เอาทุเรียนที่แกะแล้วใส่ถุงหนาแน่น แล้วผูกไว้ที่จับประตูรถ! ผูกแน่นๆ อย่าให้หล่น ถ้ามีหลายพลูหลายถุง ก็ผูกมัน 4 ที่จับประตูไปเลย แต่มีข้อระมัดระวังว่า ต้องไม่ขับขี่เฉี่ยวชนใครเท่านั้น! เดี๋ยวทุเรียนช้ำ วิธีนี้ไม่รบกวนเพื่อนร่วมโดยสาร และไม่ต้องคอยขจัดกลิ่นให้ยากหลังพาทุเรียนกลับบ้านแล้ว

     หาวิธีกันไป ยังไงเสีย เราต้องไม่เคืองกันเพราะทุเรียน! ใครใคร่อยากกินอะไรต้องได้กิน

ทึ่ง! ขนาด Ferrari หรูถูกจีนเลียนแบบเหมือนของจริงเป๊ะ

 หากพูดถึงสินค้าจากเมืองจีน หลายคนยังคงนึกถึงสินค้าเลียนแบบคุณภาพต่ำ แต่มีราคาถูกสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ, สินค้าไอที, ของแบรนด์เนมทั้งหลาย แต่รู้หรือไม่ว่า คราวนี้พี่จีนแกเล่นเลียนแบบรถซุปเปอร์คาร์หรู 'Ferrari' กันแล้ว



     ภาพที่เห็นด้านบนนั้น ดูเผินๆก็คงนึกว่านี่คือ LaFerrari รถไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้าสุดหรูจากค่ายม้าลำพอง ที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเพียง 499 คันในโลกเท่านั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่านี่คือผลงานการเลียนแบบชิ้นล่าสุดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งหากสังเกตดูดีๆจะพบว่างานประกอบและชิ้นส่วนต่างๆด้อยกว่าของจริงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า กันชนด้านหน้า แล้วชิ้นส่วนต่างๆ

     LaFerrari เวอร์ชั่นเลียนแบบนี้ เป็นผลงานจากบริษัทจีนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผลงานการผลิตซุปเปอร์คาร์เลียนแบบมาแล้วมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Pagani Zonda Revolucion ดังที่เห็นด้านล่างนี้ ซึ่งถือว่าเป็นรถไฮเปอร์คาร์ที่หายากมากๆคันหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิคใดๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายใน หรือสเป็คเครื่องยนต์ของ LaFerrari จากจีนคันนี้ แต่ก็คงไม่ใช้เครื่องยนต์ V12 พร้อมระบบไฟฟ้า KERS อย่างต้นแบบแน่นอน

     แม้ว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในประเทศจีน กำลังเติบโตรุดหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นยังคงมีรถยนต์จีนลอกเลียนแบบวางจำหน่ายอยู่มากมาย ไม่จำกัดเฉพาะรถซุปเปอร์คาร์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆทั่วโลก กำลังหาทางรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวัง

เทคนิค 5 ข้อขับเกียร์ออโต้ให้ประหยัด

ปัจจุบันนี้ รถยนต์ส่วนใหญ่บนท้องถนนมักใช้เกียร์อัตโนมัติกันทั้งนั้น เนื่องจากความง่ายและสะดวกสบายในการขับขี่ แต่เกียร์อัตโนมัติส่วนมากยังคงมีอัตราสิ้นเปลืองด้อยกว่าเกียร์ธรรมดา เราจึงมาแนะนำ 5 เทคนิคขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติให้ประหยัดน้ำมันแบบง่ายๆกัน รับรองว่าถ้าปฏิบัติได้ตามนี้ รถของคุณจะประหยัดขึ้นอย่างแน่นอน



     1. ออกตัวเบาๆไม่ต้องรีบ

     เป็นที่รู้กันว่าการจราจรในกรุงเทพมหานคร ไม่เอื้ออำนวยให้ใช้ความเร็วเท่าใดนัก พ้นไฟแดงหนึ่งก็ไปติดอีกไฟแดงหนึ่งอยู่ดี ฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรง เนื่องจากเกียร์ออโต้จะค่อยๆเปลี่ยนอัตราทดตามรอบเครื่องยนต์อยู่แล้ว การฝึกแตะคันเร่งเบาๆจะช่วยให้ประหยัดขึ้นได้มาก สังเกตได้จากเกียร์เปลี่ยนอัตราทดที่รอบต่ำเท่าไหร่ ก็จะประหยัดเพิ่มขึ้นเท่านั้น

     2. ขยับนิดหน่อย Walking Speed ก็พอ

     หากขับขี่ท่ามกลางสภาวะจราจรที่ติดขัดนั้น หากรถสามารถเคลื่อนตัวได้ทีละนิดๆ ก็ใช้วิธีปล่อยเบรคให้รถค่อยๆเคลื่อนไปอย่างช้าๆก็พอ โดยปกติความเร็วเมื่อปล่อยเบรค (ขณะใส่เกียร์ D) จะค่อยๆขึ้นไปแตะระดับ 10 กม./ชม.ได้สบายๆ ไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งก็ไม่ต้องเหยียบ ประหยัดได้อีกเยอะ