วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Mercedes-Benz เปิดตัวรูปภาพแบบ HD ของเจ้า “S-Class Coupe”

ในที่สุดค่ายรถชื่อดังอย่าง Mercedes-Benz ก็ได้เปิดตัวรูปภาพรถอย่าง “all-new S-Class Coupé” รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยพวกเขายังคงแฝงเอกลักษณ์รูปแบบเดิมๆไว้อย่างครบครันแม้ครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แหวกแนวออกไปมากเลยทีเดียว



ด้วยความหรูหราที่คุณคาดไม่ถึงนั้นเจ้ารถคันนี้จะประดับไปด้วยคริสตัลของ Swarovski มากกว่า 17 อันทางมุมหน้าและอีกกว่า 30 อันบริเวณไฟหน้าทั้งสองข้าง, ระบบช่วงล่างกันสะเทือนแบบใหม่ที่ช่วยให้ความรู้สึกนุ่มนวลในขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังมีการใช้ระบบ Magic Body Control เป็นครั้งแรกอีกด้วย

ส่วนระบบอื่นๆนั้นได้แก่  head-up display (HUD) ที่ช่วยสำหรับมุมมองที่เหนือระดับสายตาขึ้นไป อย่างไรก็ตามนั้นระบบเดิมๆอย่างการควบคุมดั้งเดิมนั้นก็ยังสามารถเปิดใช้งานได้เหมือนเดิมไม่ได้มีการตัดทอนหรือลดลงไป

สำหรับอัตราส่วนของมันนั้นจะอยู่ที่ความยาวทั้งสิ้น 5,027 mm, ฐานล้อยาวทั้งสิ้น 2,945 mm, กว้าง  1,899 mm และสูงทั้งสิ้น 1411 mm โดยมีมันจะมีความกว้างโดยรวมน้อยกว่ารถแบบ W216 predecessor (the CL) เล็กน้อยเท่านั้น

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นจะเป็นแบบ 4.7 ลิตร twin-turbo V8 ให้กำลังทั้งสิ้น 455 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 700 Nm (516 lb-ft) ซึ่งพวกเขาได้ปรับปรุงจากเครื่องยนต์รุ่นเก่าในแบบ S500 โดยพวกเขาได้ลดทอนเสียงให้น้อยลงกว่าเดิม

นอกจากนี้พวกเขายังปิดท้ายด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราเป็นอย่างมาก ซึ่งใช้รูปแบบของ 4 ประตูมาดัดแปลงให้เข้ากับรถสปอร์ต โดยพวกเราได้นำเสนอรูปภาพแบบ HD มาให้คุณผู้อ่านได้รับชมกัน

Nissan GT-R Nismo เตรียมพร้อมรองาน Geneva Motor Show

ล่าสุดค่ายรถอย่าง Nissan นั้นพร้อมแล้วสำหรับการเปิดตัวโฉมรถแบบ “GT-R Nismo” สำหรับรูปแบบยุโรปภายในงาน  Geneva Motor Show เดือนหน้านี้ หลังจากที่มันเคยเปิดตัวไปในงานอย่าง Tokyo Motor Show เมื่อปีที่แล้ว

โดยล่าสุดนั้นมันได้เข้ารับการทดสอบในสนามสุดหินอย่าง Nurburgring ซึ่งทำเวลาได้ทั้งหมด 7 วินาที  8.679 วินาทีจากเครื่องยนต์ขนาดกำลัง 592 แรงม้า (600 PS) ขนาดความจุเครื่องยนต์ 3.8 ลิตรแบบ twin-turbocharged V6 ที่ทำให้มันมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 2.4 วินาที

ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรถแบบ standard GT-R นั้นเจ้า  Nismo version จะมีระบบระบายอากาศที่ดีกว่าเดิมเนื่องจากทีมงานของ GT3 ได้พัฒนาในระบบของ  turbochargers ให้เผาไหม้ได้ยอดเยี่ยม

ปิดท้ายกันที่การออกแบบเมื่อรถแบบ GT-R Nismo นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งกันชนหน้าและหลัง, สเกิร์ตด้านข้าง, สปอยเลอร์ด้านหลังและปิดท้ายด้วยน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิมถึง 100 กิโลกรัม (ปอนด์) ช่วยให้มันวิ่งได้เร็วถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง (186 ไมล์)
















X-Tomi จัดเต็มเปิดตัวชุดแต่งรถแบบ “Mercedes-Benz S-Class” เปิดประทุนสุดคลาสสิก

หลังจากที่ค่ายรถอย่าง Mercedes-Benz  นั้นเพิ่งจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของพวกเขาอย่างเจ้า “S-Class Coupe” ไปได้ไม่นานนั้นล่าสุดค่ายแต่งรถอย่าง X-Tomi ก็ได้เปิดตัวชุดแต่งเปิดประทุนแบบ ” S-Class Convertible” ออกมาอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว

โดยรูปภาพนี้ถูกเปิดเผยโดยทีมงานออกแบบของทาง X-Tomi ที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบเปิดประทุนของเจ้า  S-Class Coupe ชุดแต่งใหม่ ที่มีการออกแบบอย่างลงตัวพร้อมปรับเปลี่ยนกระจังบังลมให้โค้งมนยิ่งขึ้นเพื่อรับกับรูปแบบของตัวรถที่มีความทันสมัยมากกว่าเดิม

ซึ่งรูปแบบของมันจะคล้ายๆรถของ S-Class ในแบบ “W111 Cabriolet” ที่อยู่ในช่วงปี 1961-1971 ซึ่งผู้โดยสารสามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย และปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์แบบ twin-turbocharged V8 และ V12 ที่สามารถเลือกได้

เปิดตัว Panamera GTS รุ่นพิเศษออกแบบโดย Maria Sharapova

อย่างที่หลายๆฝ่ายนั้นทราบอยู่แล้วว่า Maria Sharapova นักเทนนิสหญิงชื่อดังนั้นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ (ตัวแทนโฆษณา) ของค่ายรถอย่าง Porsche มาอย่างยาวนานแล้ว  แต่ล่าสุดทางค่ายก็ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญแล้วที่จะให้เธอเปิดตัวรถแบบ “Panamera GTS model” ซึ่งออกแบบตามแนวทางของนักเทนนิสสาวเอง

สำหรับรถแบบ “Panamera GTS” นั้นจะถูกเลือกการออกแบบและดีไซน์โดยทาง Sharapova ด้วยตัวเอง ซึ่งการเปิดตัวครั้งแรกนั้นจะมีขึ้นที่งานในเมือง  Sochi ที่เปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2014 นี้

การเปลี่ยนแปลงภายนอกของรถในรุ่น  “Panamera GTS by Maria Sharapova” นั้นจะมีการเพิ่มไฟหน้า LED แบบใหม่ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น, กันชนหน้าและกันชนหลังถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ นอกจากนี้บริเวณประตูด้านข้างยังมีข้อความที่ถูกเขียนด้วยลายมือของ Maria Sharapova

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นจะใช้เป็นขนาด 4.8 ลิตรแบบ V8 จากรุ่น Panamera GTS ธรรมดา โดยมีกำลังทั้งสิ้น 435 แรงม้า (440 PS) ซึ่งทำความเร่งได้จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 4.4 วินาทีและความเร็วสูงสุดที่ 288 กิโลเมตร/ชั่วโมง (179 ไมล์)

Audi เปิดตัวสปอร์ต ”Sport Quattro” ก่อนจำหน่าย TT และ R8


หลังจากที่พัฒนากันอยู่นานหลายปีในที่สุดรถแบบสปอร์ตสุดสวยอย่าง ” Sport Quattro concept” รุ่นใหม่ของทาง Audi ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ V8 นั้นก็ได้ออกมาแล้วในแบบเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง

โดยสื่อชื่อดังอย่างทาง Top Gear นั้นได้รายงานคำสัมภาษณ์ของทาง Ulrich Hackenberg หัวหน้าทีมวิศวกรของพวกเขาว่า “พวกเราจะใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กลง แต่จะไปเน้นด้านประสิทธิภาพของมันให้ใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด”

อย่างไรก็ตามการเปิดตัวรถรุ่นนี้คือการเตรียมการก่อนที่จะเปิดตัวรถแบบ TT รุ่นใหม่ โดยจุดเด่นของรถรุ่นนี้คือความเร็วที่มากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากมันลดน้ำหนักตัวถังรุ่นเดิมลงไปมากทำให้มันมีน้ำหนักเพียง 1,000 กิโลกรัมเท่านั้นเอง

Mazzanti Evantra Supercar สดใหม่จากอิตาลี

Mazzanti ถือเป็นแบรนด์ Supercar น้องใหม่จากแดนมักกะโรนี ได้เผยวีดีโอแรกของ Evantra ซึ่งจะมีการผลิตโฉม Production วางจำหน่าย ในเร็วๆนี้

ย้อนกลับไปช่วงปี 2011 เรารู้จัก Mazzanti ใน ชื่อของ Faralli and Mazzanti ซึ่งในขณะนั้นได้ให้ข้อมูลว่า จะผลิต Evantra โดยวางเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ พละกำลัง 600 แรงม้า
แต่ แล้วถึงปัจจุบัน สเป็กได้เปลี่ยนไปเนื่องจากแรงไม่พอ


Mazzanti Evantra ใช้เครื่องยนต์ขนาด 7 ลิตร V8 มีกำลัง 701 แรงม้า และแรงบิด 625 ปอนด์-ฟุต ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัตื 6-speed Silatronic ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.2 วินาที มีความเร็วปลายสูงกว่า 350 กม./ชม.

Evantra ใช้แชสซีส์แบบ chrome-molybdenum นอกจากนั้นตัวถังรถยังมีน้ำหนักสุทธิที่ต่ำกว่า 3,000 ปอนด์จากการใช้ วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และอลูมีเนียมในการผลิตตัวถัง

ล้ออัลลอยขนาด 20″ ใช้ของ OZ เบรกจาก Brembo คาลิปเปอร์ 6 สูบ คู่หน้า และ 4 สูบคู่หลัง สำหรับออปชั่นเสริมสามารถเลือกเบรกเซรามิก และ ระบบส่งกำลังไฟฟ้า ที่สามารถปรับเป็น Strada และ Corsa ได้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมแพคเกจบริการเอาใจลูกค้า

ค่ายรถตราดาวเร่งเสริมความคุ้มค่าด้านการให้บริการ เปิดตัวเมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์วิส พลัส ทางเลือกของการบริการดูแลรักษารถยนต์และขยายเวลาการรับประกันให้กับลูกค้าสามารถเพิ่มแพคเกจการบำรุงรักษาตามต้องการได้ 4 รูปแบบ
พุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวทางการให้บริการรูปแบบใหม่ภายใต้โปรแกรมมาย เซอร์วิส จะมุ่งเน้นการให้บริการตามความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคล และนำเสนอบริการที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์วิส พลัส จะเป็นโปรแกรมใหม่สำหรับการให้บริการหลังการขายในรูปแบบของแพคเกตการบำรุงรักษาและการขยายเวลารับประกันรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย ซึ่งซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายของอะไหล่และค่าแรงในการเข้ารับบริการตามระยะทางหรือการเปลี่ยนอะไหล่สึกหรอที่จำเป็นภายใต้การใช้งานปกติ และรวมถึงงานซ่อมภายใต้ข้อกำหนดของการรับประกัน

“สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากโปรแกรมการบริการนี้ ลูกค้าสามารถขยายระยะเวลาการรับประกันเพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งบริการดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในเรื่องมูลค่าและคุณค่าของตัวรถทั้งในด้านความปลอดภัยเนื่องจากใช้อะไหล่และผลิตภัณฑ์แท้จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เท่านั้น”
นอกจากนี้ ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้ โดยไม่มีความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อหรือการปรับราคาในอนาคต และสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้ามีความสะดวกมากยิ่งขึ้นคือลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการตามที่ต้องการได้ทุกแห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์วิส พลัส จะเปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานได้ 4 แพคเกจ ประกอบด้วย 1.แพคเกจคอมแพคท์ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทาง โดยไม่จำกัดระยะทาง 2.แพคเกจแอดวานซ์ ครอบคลุมการขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ในปีที่ 4 และ 5 โดยใช้หลักเกณฑ์ความคุ้มครองเช่นเดียวกันกับการรับประกันคุณภาพใน 3 ปีแรกโดยไม่จำกัดระยะทาง
3.แพคเกจเอ็กซ์ตร้า ครอบคลุมเรื่องการบำรุงรักษาตามระยะทาง และการขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ในปีที่ 4 และ 5 โดยใช้หลักเกณฑ์ความคุ้มครองเช่นเดียวกันกับการรับประกันคุณภาพใน 3 ปีแรกโดยไม่จำกัดระยะทาง
และ 4.แพคเกจเอ็กเซลเลนซ์ ครอบคลุมเรื่องการบำรุงรักษาตามระยะทาง การเปลี่ยนอะไหล่สึกหรอตามการใช้งาน และการขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ในปีที่ 4 และ 5 โดยใช้หลักเกณฑ์ความคุ้มครองเช่นเดียวกันกับการรับประกันคุณภาพใน 3 ปีแรกโดยไม่จำกัดระยะทาง
“สิทธิพิเศษต่าง ๆ เหล่านี้ มีเพียงแต่ลูกค้าของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่จะได้รับ และเป็นที่แน่นอนว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์จะยังคงสานต่อความมุ่งมั่นในพันธกิจด้านการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานอันเข้มงวดที่เน้นความเสมอต้นเสมอปลาย”

2015 Ford Focus RS เจอกันแน่ปีหน้า Ecoboost 330 แรงม้า

หลังจากที่เห็น Ford Focus ตัวปรับโฉมหน้าตากันไปแล้ว เมื่อวันก่อนวันนี้ มีข้อมูลรายงานความคืบหน้าของ Focus สายพันธุ์แรงสุดในไลน์กันต่อ กับ 2015 Ford Focus RS

Ford Focus RS ใหม่จะใช้ขุมพลังขนาด 2.3 ลิตร EcoBoost 4 สูบ ที่วางอยู่ใน Ford Mustang มีกำลัง 305 แรงม้า (227 kW) จะถูกปรับจูนแรงขึ้นเป็น 330 แรงม้า (246 kW)

จากรายงานก่อนหน้านี้ ระบุว่า Focus RS จะมาในโฉม 5 ประตู ขับเคลื่อนล้อหน้า และทำให้เราคาดเดากันต่อได้อีกว่า จะต้องมีกาปรับเซ็ตช่วงล่างใหม่แบบสปอร์ต และเบรกแบบสมรรถนะสูง และ เฟืองท้ายแบบ limited slip

สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ : ยกระดับ ‘เอ็มจีซี-เอเชีย’ สู่อาเซียนใน 5 ปี

ชื่อของมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย นั้น อาจจะเริ่มได้ยินและเป็นที่รู้จักกันในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์ขนาดใหญ่ที่มีอายุมานานกว่าทศวรรษ

ธุรกิจที่ดำเนินการภายใต้กลุ่มนี้ ประกอบไปด้วย มิลเลนเนียม ออโต้ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าอย่างพัฒนาการ ฮอนด้า ออโตโมบิล รวมไปถึงธุรกิจจำหน่ายรถยนต์หรูหราอย่างโรลส์-รอยซ์และแอสตัน มาร์ติน ก็อยู่ในร่มเงาของกลุ่มนี้ทั้งสิ้น รวมไปถึงธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองหลากหลายยี่ห้อ

นอกจากนี้ เอ็มจีซี-เอเชียยังดำเนินธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล ซึ่งเป็นพันธมิตรกับผู้ให้เช่ารถระดับโลกอย่างซิกท์ มีธุรกิจให้บริการบำรุงรักษารถยนต์ ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย รวมถึงบริการระบบหลังบ้านอย่างไอทีและคอลล์เซนเตอร์ และศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร


ด้วยยอดรายได้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะคิดว่านี่คือธุรกิจที่สมบูรณ์แบบและรอการเติบโตเพียงอย่างเดียวก็พอแล้ว แต่กับผู้กุมบังเหียนองค์กรอย่าง ดร.จุ๋ย – สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม เอ็มจีซี-เอเชีย บอกว่ายังไม่เพียงพอหากต้องการแข่งขันในระดับอาเซียน

“จริง ๆ แล้วกลุ่มธุรกิจยานยนต์ขนาดใหญ่ในอาเซียนก็มีไม่กี่รายที่ใหญ่จริง ๆ เราก็มีแนวทางในการพัฒนาองค์กรที่ชัดเจนที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจรในอาเซียน ซึ่งยังมีสิ่งที่เราต้องเดินหน้าขยายและปรับปรุงแผนงานอีกมาก”

ดร.จุ๋ยบอกว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าหรือในปี พ.ศ.2561 เอ็มจีซี-เอเชียของเขาตั้งเป้าหมายที่จะเป็นกลุ่มบริษัทฯ ที่มีรายได้กว่า 5 หมื่นล้านบาทและมีโครงข่ายธุรกิจทั่วในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเห็นการออกสู่ภูมิภาคอาเซียนด้วยธุรกิจรถเช่า และอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการธุรกิจอื่น ๆ ที่จะขยายตัวตามออกไป

ทั้งนี้ เขาประเมินว่าจะมีโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วง 5 ปีนี้อีก 48 โครงการ ภายใต้เอ็มจีซี-เอเชีย เพื่อที่จะมาเติมเต็มความฝันในการบุกออกสู่ภูมิภาคอาเซียนของเขาให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยจะมาจากทั้งการต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีอยู่และการเดินหน้าหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ

“เป้าหมายของเราคือการสร้างเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครบวงจร อะไรที่ขยายออกไปได้เราก็จะทำ ยกเว้นในเรื่องของการเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ไม่เคยอยู่ในความคิดของผม เพราะเราไม่มีความรู้และเทคโนโลยีในด้านนี้”

MA2014_Cover
เมื่อถามว่าจะต้องมีการลงทุนอีกมากน้อยเพียงใด ดร.จุ๋ยตอบว่าไม่สามารถระบุได้ทั้งหมด เนื่องจากต้องคำนึงถึงราคาที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ ปี โดยเขาเชื่อว่าหลังเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ราคาที่ดินในประเทศไทยน่าจะสูงขึ้น เพราะต่างชาติจะเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจในอาเซียน

อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 นี้ เอ็มจีซี-เอเชีย จะมีการลงทุนด้วยงบประมาณไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทในหลายโครงการ ยกตัวอย่างเช่น การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการของหลากธุรกิจในเครือที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท

หรือการทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการเปิดศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ ที่มีเป้าหมายจะให้เป็นศูนย์ที่บริการได้ถึงกลุ่มรถยนต์ซูเปอร์คาร์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจรถเช่าก็จะมีการต่อยอดออกไปเป็นผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่เกี่ยวข้อง

“เราคงไม่ปิดโอกาสทางธุรกิจของตัวเอง แต่ผมมีแนวคิดว่าเราจะไม่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องและทับซ้อนกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ถ้าถามเรื่องแบรนด์รถยนต์ใหม่ ๆ บอกได้ว่ามีคนเข้ามาคุยกับเราหลายราย แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ ถ้ามีอะไรจะประกาศอย่างชัดเจน”

สัณหวุฒิกล่าวว่านอกเหนือจากการขยายธุรกิจแล้ว เอ็มจีซี-เอเชีย จะเดินหน้าในการพัฒนาธุรกิจออกไปสู่หัวเมืองขนาดใหญ่ทั่วประเทศไทยมากขึ้น เริ่มจากอุบลราชธานี จากนั้นก็จะพัฒนาไปตามภูมิภาคต่าง ๆ เนื่องจากมองว่าในอนาคต หัวเมืองเหล่านี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตในแต่ละภูมิภาค ไม่ได้เติบโตเฉพาะในกรุงเทพมหานครเหมือนที่ผ่านมา

A-Square Showroom
อย่างไรก็ตาม สำหรับในองค์กรที่มีการพัฒนานำมืออาชีพมารับหน้าที่ในการบริหารเพิ่มเติมนั้น เขาบอกว่าทำให้ภาพของธุรกิจครอบครัวจางลงไป แต่มองว่าในอนาคตอีกสัก 2 ปี อาจจะต้องมีการปรับองค์กรให้มีความกระชับและแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่วางไว้

“ผมเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังแข็งแกร่ง แม้จะมีปัญหามากระทบบ้างก็ตาม แต่พื้นฐานของเรายังค่อนข้างดี การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะก่อประโยชน์ให้กับในภูมิภาคนี้มาก แต่ก็คงต้องใช้เวลา ซึ่งผมคิดว่าหลังเปิดไปแล้ว 3 ปีคือในปี 2561 จะเป็นปีที่เรารับรู้ถึงเขตประชาคมเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันนั้น เอ็มจีซี-เอเชีย คงพร้อมที่จะก้าวสู่ภูมิภาคอาเซียนเช่นกัน”

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ใครมีลูกซื้อเลย Aston Martin DB Convertible Junior ทำท็อปสปีด 74 กม./ชม.


Nicholas Mee & Company LTD หนึ่งในดีลเลอร์ของ Aston Martin เปิดตัวรถเปิดประทุน Aston Martin DB สำหรับเด็กที่ถอดแบบมาจากรถคลาสสิกในช่วง 1960

สำหรับมหาเศรษฐีที่กำลังมองหาของเล่นให้ลูกสุดที่รัก ไม่ควรพลาดรถของเล่นคันนี้ Aston Martin DB Convertible Junior ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินสี่จังหวะ หล่อเย็นด้วยอากาศ มีความจุ 110 ซีซี ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบสามสปีด

ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ธรรมดา ทำให้รถของเล่นคันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 74 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับขนาดของตัวรถ


ระบบเบรกใช้ดิสก์ของ Brembo ช่วงล่างคอยล์สปริง ขณะที่แป้นเหยียบสามารถปรับระดับได้ ตัวถังของรถของเล่นคันนี้มีความยาว 2,500 มม.และกว้าง 1,030 มม. มาพร้อมแตรและกรอบไฟบอกสัญญาณต่างๆอย่างครบครัน

ด้วยคุณสมบัติอันครบครันบวกกับชื่อชั้นของแบรนด์ Aston Martin ทำให้ราคารถของเล่นคันนี้สูงถึง 16,500 ปอนด์หรือราว 895,000 บาท เทียบเท่า Honda Civic กันเลยทีเดียว

Hyundai Xcent อีกหนึ่งรถซีดานขนาดเล็ก ลุยตลาดอินเดีย


กลายเป็นสมรภูมิสำหรับตลาดรถเล็กไปแล้วสำหรับงานออโต้เอ็กซ์โปในนิวเดลีของอินเดีย ไม่เพียง Ford และ Tata ที่เผยโฉมรถขนาดเล็กเท่านั้น แต่ยังมี Hyundai ที่เปิดตัว Xcent ซีดานอีกด้วย

Xcent พัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น Grand i10 เตรียมออกทำตลาดซับคอมแพกต์ในอินเดียตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป ความยาวตัวถังต่ำกว่าสี่เมตร แน่นอนว่าคู่แข่งโดยตรงคือ Tata Zest และ Ford Figo ที่เรานำเสนอไปเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ตาม Hyundai Xcent ดูจะเน้นที่อ็อปชั่นมากกว่าคู่แข่ง ด้วยการใส่ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และช่องเก็บของมากมายในห้องโดยสาร ลูกค้าสามารถเลือกใช้ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ถอยจอด กล้องมองหลัง กระจกมองข้างพับได้และระบบเปิดฝากระโปรงท้ายด้วยการกดปุ่มเดียว

เครื่องยนต์จะใช้บล็อกเบนซิน 1.2 ลิตรแบบเดียวกับรุ่น Grand i10 พร้อมกับมีดีเซล 1.4 ลิตรที่ยกมาจาก i20 และ Verna ประกบด้วยระบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ ส่วนระบบความปลอดภัยมีถุงลมคู่หน้าและเบรก ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

หล่อและดุ Ferrari 458 Velocita โดย Duke Dynamics


Duke Dynamics ได้เผยรายละเอียดภาพแรกของชุดแต่งใหม่ล่าสุดของ Ferrari 458 Italia
ชุดแต่งล่าสุดนี้มีชื่อว่า 458 Velocita ได้มีการติดตั้งกันชนหน้าใหม่, สเกิร์ตข้างแบบคาร์บอน และฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ นอกจากนั้นยังมีการติดตั้งสปอยเลอร์หลัง และ ปลายท่อไอเสียรูปแบบใหม่ ซึ่งส่งผลให้ม้าแดง 458 คันนี้ดูดุดันขึ้นเป็นอย่างมาก

สำหรับในด้านการอัพเกรดสมรรถนะ ทางบริษัท ยังไม่ได้มีแผนที่จะทำในตอนนี้ สำหรับขุมพลังเดิมของ 458 Italia ใช้เครื่อง 4.5 ลิตร V8 570 แรงม้า และมีแรงบิด 540 Nm มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.4 วินาที ก่อนที่จะไหลยาวไปถึงความเร็วปลายที่ระดับมากกว่า 325 กม./ชม.

สำหรับรายละเอียดของแพคเกจ ชุดแต่งนี้จะมาในช่วงปลายปี พร้อมกับราคาในช่วงใกล้เปิดตัว กันอีกครั้ง

ฮอนด้าฟันธงตลาดรถยนต์ปีนี้ไม่เกิน 1.13 ล้านคันและอาจลดอีกหากการเมืองยืดเยื้อ


ฮอนด้าชี้การเมืองยังไม่นิ่ง ต้องประเมินสถานการณ์ระยะสั้นต่อเนื่อง ชี้หากไม่รุนแรงกว่านี้ตลาดรถยนต์รวมหดตัวเหลือ 1.13 ล้านคัน
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร รอบประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าตลาดรถยนต์รวมในปีนี้จากการประเมินเบื้องต้นของฮอนด้าน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.13 ล้านคันเท่านั้น หดตัวจากยอดขาย 1.32 ล้านคันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การประเมินดังกล่าวได้รวมปัจจัยทางด้านการเมืองในปัจจุบันเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งบริษัทฯ เองต้องมีการประเมินสถานการณ์ระยะสั้นอย่างต่อเนื่องทุกระยะ
“ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีที่ยากแก่การประเมินสถานการณ์มาก เพราะทุกอย่างยังไม่นิ่ง ฮอนด้าเองก็ต้องประเมินทั้งเรื่องยอดการผลิตและยอดจำหน่ายเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว หากสถานการณ์ไม่รุนแรงไปกว่านี้ ก็เชื่อว่าตลาดจะเป็นไปตามที่คาดการณ์”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของบริษัทฯ แต่อย่างใด แม้จะพบว่าลูกค้าที่เดินเข้าโชว์รูมลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่มองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นระยะสั้น และไม่ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว
พิทักษ์กล่าวต่อว่าฮอนด้าเองดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 50 ปีในปีนี้ ดังนั้น จึงมีความเข้าใจถึงวัฒนธรรมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี จึงไม่ได้ตกใจและไม่มีผลกระทบต่อการเดินหน้าธุรกิจในประเทศไทยอย่างแน่นอน
“แต่หากจะมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามา ก็เป็นไปได้ที่เขาอาจจะไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและอาจลังเลใจ ส่วนฮอนด้าเองขอยืนยันว่าไม่มีปัญหา เราเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระยะสั้นเหมือนปัญหาอื่น ๆ”

ฮอนด้าคาดว่าบริษัทฯ จะมียอดจำหน่าย 1.8 แสนนคัน ลดลงเล็กน้อยจากยอด 2.13 แสนคันในปี 2556 โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีกหลายรุ่น เริ่มจากฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ที่เปิดตัวเมื่อวานนี้ ด้วยราคาจำหน่าย 5.5-7.49 แสนบาท
ทั้งนี้ ฮอนด้าตั้งเป้าหมายการจำหน่ายฮอนด้า ซิตี้ใหม่ที่ 6 หมื่นคันในปีนี้ โดยลดลงจากยอด 9.3 หมื่นคันในปีล่าสุด เป็นผลมาจากการสิ้นสุดระยะของโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ทำให้แนวโน้มตลาดรถยนต์นั่งน่าจะหดตัวลงไปตามการหดตัวของตลาด
สำหรับในปีนี้ ฮอนด้าไม่มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย เนื่องจากอยู่ในช่วงการลงทุนโรงงานแห่งที่ 2 ที่จ.ปราจีนบุรีในปัจจุบัน ขณะที่โรงงานที่จ.อยุธยาเองก็ใช้กำลังผลิตที่ระดับ 70-80% เท่านั้นตามสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน
ในส่วนของโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ว่าเป็นนโยบายที่ดีของภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ผู้ที่จะลงทุนเพิ่มต้องพิจารณาให้ดี และต้องยอมรับว่าการเปิดโครงการใหม่ก็จะส่งผลกระทบกับผู้ลงทุนในโครงการแรกเช่นกัน
“สำหรับฮอนด้าเองในฐานะผู้ลงทุนโครงการอีโคคาร์เฟส 1 เราสามารถขยายการลงทุนไปที่เฟส 2 ได้อยู่แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดทั้งหมด ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสนใจหรือไม่ เนื่องจากยังพอมีเวลาในการตัดสินเรื่องนี้”

นิสสันเตรียมเปิดศึกมินิเอ็มพีวี ส่งแกรนด์ ลิวิน่าเข้าไทย มี.ค.นี้


แม้จะไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวที่ว่านิสสันจะกลายเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในกลุ่มเอ็มพีวีเล็กขนาด 7 ที่นั่ง ด้วยการนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซียอย่างแกรนด์ ลิวิน่าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยก็ดูเหมือนจะเข้าใกล้ความจริงขึ้นไปทุกที

หลังจากการเปิดจำหน่ายนิสสัน จู๊คและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ดูเหมือนจะมีความมั่นใจในการทำตลาดรถยนต์นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียมากขึ้น

แม้แกรนด์ ลิวิน่าจะไม่ใช่รถยนต์ที่จะสร้างยอดจำหน่ายได้อย่างมากมาย แต่ก็ถือเป็นกลุ่มรถยนต์ที่น่าสนใจ เนื่องจากมีผู้เล่นจำนวนไม่มากนักในตลาดประเทศไทย ทำให้น่าจะพอสอดแทรกการทำตลาดเข้ามาได้บ้างพอสมควร

จากการสอบถามไปยังเวบไซต์พันธมิตรของเราอย่าง Mobil123 ซึ่งเป็นเวบไซต์ด้านรถยนต์ในประเทศอินโดนีเซีย พบว่านิสสัน แกรนด์ ลิวิน่านั้นได้รับความนิยมในตลาดอินโดนีเซียมากพอสมควร แม้จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่อย่างซูซูกิ เออร์ทิก้าและเชฟโรเลต สปินน์ก็ตาม

นอกจากนี้ นิสสัน อินโดนีเซียยังได้พยายามท้าชิงตลาดในกลุ่มรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ หรือ เอ็มพีวี ทั้งหมด โดยตั้งเป้าหมายที่จะแย่งส่วนแบ่งตลาดมาจากโตโยต้า อวันซ่า / ไดฮัทสุ เซเนีย รวมไปถึงการพยายามแย่งตลาดรถเอ็มพีวีขนาดใหญ่อย่างโตโยต้า อินโนว่า เช่นเดียวกัน

แม้ในตลาดอินโดนีเซียจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและมีรุ่นชุดแต่งพร้อมด้วยเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรที่เรียกว่า เอ็กซ์-เกียร์ แต่สำหรับประเทศไทยแล้วหากจะให้คาดการณ์ก็น่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรรุ่นเดียวกับที่ใช้ในซิลฟี พัลซาร์และจู๊ค ซึ่งน่าจะมีการปรับรายละเอียดการผลิตและออพชั่นให้เหมาะสมกับประเทศไทยมากขึ้น

กำหนดการเปิดตัวน่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะเข้าไปรับจองอย่างเต็มรูปแบบในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป

BMW Series 4 Gran Coupe ปี 2015 แฮทช์แบ็คสุดหรูรุ่นล่าสุด


หลังจากที่บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ได้เปิดตัวซีรีส์ 4 (BMW 4 Series) ไปเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งมีทั้งรุ่นคูเป้สองประตู และรุ่นเปิดประทุน ล่าสุด ค่ายตรากังหันก็ได้เพิ่มรูปแบบตัวถังให้กับรถตระกูลใหม่อีกหนึ่งแบบ ซึ่งก็คือ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 แกรน คูเป้ (BMW 4 Series Gran Coupe) รุ่นปี 2015 สปอร์ต 5 ประตูในรูปลักษณ์คูเป้สุดหรูหรา


          เมื่อดูเผิน ๆ จะสังเกตว่า ซีรีส์ 4 แกรน คูเป้ ดูไม่ต่างจากบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 (BMW 3 Series) มากนัก ทั้งแนวทางการออกแบบและเส้นสายต่าง ๆ แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยที่ไฟท้ายเพื่อให้ดูลงตัว รวมทั้งขนาดของรถซึ่งใหญ่กว่าทั้งในแนวกว้างและแนวยาว ส่วนภายในห้องโดยสารก็มีความกว้างขวางมากขึ้น แต่ด้วยโครงสร้างแบบคูเป้ที่มีด้านหลังลาดมากกว่าจึงทำให้ที่นั่งหลังจะมีเฮดรูมเตี้ยกว่าซีรีส์ 3 ซีดานเล็กน้อย ส่วนฝากระโปรงหลังออกแบบให้เปิดขึ้นได้ทั้งกระจกหลังแบบรถแฮทช์แบค จึงสามารถเก็บของได้ง่ายกว่าแบบซีดาน ด้านวัสดุคาดว่าจะเกรดใช้เดียวกับซีรีส์ 3 และซีรีส์ 4 คูเป้

          ระบบขับเคลื่อนยังคงยกมาจากซีรีส์ 3 และซีรีส์ 4 โดยเริ่มที่รุ่น 428i มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบชาร์จ กำลัง 240 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองสูงสุด 14 กม./ลิตร สามารถเลือกระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ได้ อีกรุ่นหนึ่งคือ 435i มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาด 3,000 ซีซี กำลัง 300 แรงม้า ทำอัตราสิ้นเปลืองสูงสุด 13 กม./ลิตร มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น โดยทั้ง 2 รุ่นจะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด นอกจากนี้ ยังมีโหมดการขับขี่ทั้ง Eco Pro, Comfort, Sport และ Sport+ รวมทั้งชุดแต่งต่าง ๆ เหมือนกับซีรีส์ 4 ตัวถังอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 แกรน คูเป้ รุ่นปี 2015 จะเริ่มจำหน่ายที่สหรัฐฯ ภายในช่วงกลางปี 2014 โดยขณะนี้ยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายออกมาแต่อย่างใด

Chevrolet Colorado 2014 ขุมพลังใหม่ Duramax ประหยัด แรงกว่าเดิม

หากคุณต้องการรถกระบะพันธุ์แกร่ง ทนทาน ทรงพลังอย่างมีสไตล์อเมริกันสายพันธุ์แท้ ก็ไม่ควรพลาดทำความรู้จักกับ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นปี 2014 (Chevrolet Colorado 2014) ที่มีการปรับโฉมและเพิ่มออปชั่นอย่างระบบอินโฟร์เทนเมนต์ BYOM หรือ ระบบเชื่อมต่อความบันเทิง ผ่านจอสกรีนสีขนาด 7 นิ้ว และเครื่องยนต์ใหม่ Duramax ขุมพลังใหม่ที่มอบความแรงได้ดั่งใจแต่ประหยัดเต็มขั้น