แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แต่งรถ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แต่งรถ แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Autozkin นำเข้าชุดเพิ่ม Performance ท่อไอเสีย Akrapovic และล้อแม็กซ์ HRE


พสุพงษ์ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโต้ซคิน จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายฟิล์มกันรอยปกป้องสีรถ autozkin ร่วมกับ มร.ไบรนัล ชูว์ (Mr.Brinal Chua ) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโต้วอร์ค บริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายชุดอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาพเอเชียแปซิฟิค พร้อมผู้บริหารระดับสูง ร่วมจัดงานแถลงข่าวแนะนำชุดท่อไอเสียสายพันธ์รถแข่ง Akrapovic Car Exhaust Systems สุดยอดท่อไอเสียอัจฉริยะที่ผลิตด้วยวัสดุน้ำหนักเบา Titanium alloy พร้อมล้อแม้กซ์ HRE Performance Wheels ล้อแม็กซ์ชั้นนำจากอเมริกา ผลิตด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบาที่ดีที่สุดในโลกถึง 2 ชนิดคือ Forged aluminum และ Carbon Wheels ซึ่งทั้ง 2 ยี่ห้อเป็นสินค้าชั้นนำที่นำเข้ามาเข้ามาเพื่อการปรับเพิ่มสมรรถนะรถยนต์ โดยภายในงานได้นำชุดล้อแม็กซ์ HRE Carbon Wheels ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 6 กิโลกรัม/วงล้อ ที่มีการผลิตเพียงแค่ 15 ชุดในโลกเท่านั้น เข้ามาจัดโชว์ให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ชมอีกด้วย ที่งาน Supercar & Import Car Show 2013 อิมแพ็คเมืองทองธานี

พสุพงษ์ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บ.ออโต้ซคิน จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า “ บริษัท ออโต้ซคิน ดำเนินธุรกิจในด้านการจัดจำหน่ายพร้อมศูนย์ติดตั้งฟิล์มกันรอยปกป้องสีรถ Autozkin นวัตกรรมหนึ่งเดียวที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องสีรถจากสะเก็ดหิน และรอยขูดขีดทุกชนิด ซึ่งเป็นที่นิยมสูงสุดในการปกป้องสีรถในขณะนี้ Autozkin มีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มรถหรู Luxury carและกลุ่มรถ Supercar กว่า 80 % ที่นำรถเข้ามารับบริการติดตั้งฟิล์มกันรอย ดังนั้นบริษัท จึงมีนโยบายในการขยายธุรกิจ ด้วยการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มสมรรถนะรถยนต์ชั้นนำระดับโลก เข้ามาเสริมตลาดให้กับกลุ่มลูกค้ารถยนต์ระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ตป์ “ Autozkin Performance Studio” และในอนาคตบริษัทฯ ตั้งเป้าในการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าเพื่อการปรับเพิ่มสมรรถนะรถยนต์ชั้นนำให้ครบทุกเซ็กเม้นท์อีกด้วย”
สำหรับสินค้าที่บริษัทฯได้ลิขสิทธิ์ในการนำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ เป็นสินค้าระดับ super brand ของโลก ที่มีมาตรฐานในการผลิต และการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง เพื่อการปรับเพิ่มสมรรถนะรถยนต์ชั้นนำ ได้แก่ Akrapovic Car Exhaust System ชุดท่อไอเสียสายพันธ์รถแข่งจากประเทศสโลวาเนีย ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูงด้วย Titanium alloy ที่มีน้ำหนักเบา แข็งแกร่งทนทาน ทนความร้อนสูง และ HRE Performance Wheels ชุดล้อแม็กซ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก นำเข้าจากอเมริกา ผลิตด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบาถึง 2 ชนิดคือ Forged aluminum wheels และ Carbon Wheels ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในการเพิ่มสมรรถนะรถยนต์ ให้มีพละกำลังในการขับเคลื่อนที่สูงขึ้น นับเป็น super brand ที่บริษัทฯมีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสนำเข้ามาทำตลาดเพื่อการปรับเพิ่มสมรรถนะสำหรับรถยนต์ชั้นนำ
นอกจากนี้ คุณพสุพงษ์ ลีนุตพงษ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ บริษัทฯ ยังได้ผนึกพันธมิตรโดยร่วมกับบริษัท autovox Singapore เข้ามาร่วมในการทำธุรกิจในครั้งนี้ ซึ่งเป็นบริษัทฯที่มีศักยภาพในด้านการนำเข้าและเป็นผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งและเพิ่มสมรรถนะรถยนต์สำหรับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ( Tuner Specialist ) ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้เข้ามาจัดตั้งและจดทะเบียนเป็นบริษัท autovox Thailand ( บ.ออโตวอร์ค (ประเทศไทย จำกัด) เพื่อทำหน้าที่ในการจัดหาสินค้าชั้นนำจากทั่วโลกเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

ชุดท่อไอเสีย Akrapovic Car Exhaust Systems
More Horse Power. More Torque. More Performance. Pure Power.
Akrapovic ชุดท่อไอเสียสายพันธ์รถแข่ง ที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 23 ปี พร้อมการันตีคุณภาพด้วยประสบการณ์และรางวัลมากมายจากสนามแข่งระดับโลกมากกว่า 61 สนามแข่ง นับตั้งแต่ปี 1990
Akrapovic ยึดถืออุดมการณ์และคติ “ ชัยชนะในสนามแข่ง หมายถึงความเร็ว พละกำลัง และความแข็งแกร่งในระดับสุดยอด เพราะสนามแข่งคือการทดสอบที่ดีที่สุดของระบบไอเสียที่มีคุณภาพสูง” ปัจจุบัน Akraopovic คือ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ( Official Partner ) ของทีม Audi Sport เจ้าของแชมป์เลอมังส์ 24 ชม. ในปี 2010,2011 , 2012 และ BMW Motor Sport เจ้าของแชมป์เยอรมันทัวริ่งคาร์
DTM Champion 2012
Innovation Design
Akrapovic ใช้หลักการออกแบบและผลิตท่อไอเสียที่หลอมรวมเอาสมรรถนะ ความทนทาน และน้ำหนักเบา เข้าไว้ด้วยกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สวยงาม ด้วยหม้อพักทรง 8 เหลี่ยม สร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ในตลาดชุดแต่ง ปฏิวัติแนวคิดดั้งเดิมของระบบท่อไอเสียแบบทรงรี สรร้างมาตรฐานใหม่ให้การดีไซน์ระบบท่อไอเสียสวยงามทั้งระบบจากต้นจรดปลายท่อ นอกจากนี้ระบบท่อไอเสียยังถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะให้สูงขึ้น ทั้งแรงม้าและแรงบิด ด้วยแนวคิด Pure Power โดยการลดน้ำหนักเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพการไหลของไอเสียที่ราบรื่น และให้เสียงทุ้มกังวาน อันเป็นเอกลักษณ์ของ Akrapovic

The Best Materials : Titanium alloy
น้ำหนักเบา แข็งแกร่งทนทาน ทนความร้อนสูง
Akrapovic เลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุดในการผลิตชุดท่อไอเสีย Titanium alloy ซึ่งมีน้ำหนักเบา แข็งแกร่งทนทาน และทนความร้อนสูง โดยวัสดุไททาเนียมอัลลอยด์ที่นำมาใช้ในการผลิตท่อไอเสีย สั่งผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งมีความแข็งแกร่งทนทานกว่าไททาเนียมทั่วไปถึง 3 เท่า และทนความร้อนสูง ให้น้ำหนักเบากว่า Stainless Steal ถึง 40 เท่า ส่งผลให้สมรรถนะของพละกำลังในส่วนของแรงม้าและแรงบิดเพิ่มมากขึ้นทันที

นอกจากนี้ Akrapovic ยังใช้วัสดุที่มีความทนทานสูงอย่าง Carbon fibre ที่มีน้ำหนักเบาและมีความทนทานต่อแรงเค้นและลดความต้านทานต่ออุณหภูมิสูง เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการผลิตท่อไอเสีย ได้แก่ แผ่นบังความร้อนจากท่อ , ข้อยึดและแหวนรัดปลายท่อ , แขนจับยึดท่อ , และหน้ากากตกแต่งปลายท่อไอเสีย
ชุดท่อไอเสีย Akrapovic ทุกรุ่นผ่านมาตรฐาน EC-Type Approval Certificate for non- Original Car Exhaust System ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการออกแบบท่อไอเสียที่ยึดหลักท่อไอเสียเดิมจากโรงงานผู้ผลิต ( OEM System) และถูกต้องแม่นยำตามหลักอากาศพลศาสตร์ของท่อไอเสียเดิมของรถยนต์แต่ละรุ่น และยังใช้จุดยึดเดิมทุกจุดของการติดตั้ง และยังผ่านมาตรฐานรับรองการผลิตจาก สถาบัน TUV Germany

Slip-On-Line ชุดปรับแต่งท่อไอเสียท่อนปลาย
เป็นการปรับแต่งท่อไอเสียช่วงหม้อพักท่อนปลาย – ถึงปลายท่อไอเสีย มีให้เลือกทั้งวัสดุไททาเนียมอัลลอย และชุดท่อไอเสียที่ผลิตด้วย Stainless Steal ด้วยโปรแกรมการออกแบบ EC Type Approval เป็นการออกแบบท่อไอเสียตามมาตรฐานการผลิตท่อไอเสียของรถยนต์แต่ละรุ่นจากโรงงานผู้ผลิตเดิม (OEM System ) ซึ่งไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลงรูปทรงของท่อไอเสียเดิมแต่อย่างใด แม้จุดยึดของท่อไอเสียก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมทั้งสิ้น
ด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างไททาเนียมอัลลอยด์ และเทคโนโลยีชั้นสูง ในการผลิต แม้เปลี่ยนชุดท่อไอเสีย Akrapovic เพียงแค่ท่อนปลายของท่อ ก็ยังสามารถรีดน้ำหนักของตัวรถลงได้ถึง 18 KG ส่งผลให้สามารถเพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์มีพละกำลังมากขึ้นถึง 37.7 แรงม้า และให้อัตราเร่งพร้อมแรงบิดที่สูงขึ้นถึง 67.8 นิวตันเมตร

Evolution Line ชุดปรับแต่งท่อไอเสียแบบเต็มระบบ หรือเปลี่ยนทั้งเส้น โดยยังคงใช้ หลักการออกแบบ EC-Type Approval ซึ่งยึดหลักการออกแบบท่อไอเสียตามมาตรฐานเดิมโรงงานผู้ผลิต ( OEM System ) แต่เพิ่มเทคโนโลยีในการปรับแต่งสมรรถนะตั้งแต่การปรับแต่งท่อร่วมไอเสียและตัวควบคุมออกซิเจนเซ็นเซอร์ ปรับแต่งตัวกรองไอเสีย Catalytic converters เพื่อให้การไหลของไอเสียมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในส่วนของวัสดุยังคงใช้วัสดุที่ดีที่สุด ที่มีน้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ทนความร้อนสูง ด้วย Titanium alloy หรือ วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน สวยงามด้วย Stainless Steal พร้อมตกแต่งปลายท่อ ( Tailpipes ) ด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ เพิ่มความหรู คลาสสิคให้ปลายท่อดูสปอตร์มากขึ้น Akrapovic ยังคงยึดหลักการเดิมในการปรับเปลี่ยนท่อไปไอเสีย เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้รถยนต์มีแรงม้าและแรงบิดที่สูงขึ้น รถยนต์ที่เปลี่ยนท่อไอเสียทั้งระบบหรือทั้งเส้น ( Evolution Line ) สามารถลดน้ำหนักของตัวรถลงได้ถึง 25.8 KG ทำให้เพิ่มพละกำลังของสมรรถนะเครื่องยนต์ให้มากขึ้นถึง 73.6 แรงม้า และให้อัตราเร่งหรือแรงบิดที่สูงมากขึ้น 73.6 นิวตันเมตร ทำให้สมรรถนะการขับขี่เร้าใจ ( ทั้งนี้แรงม้า/แรงบิดที่เพิ่มขึ้น อาจจะมีความแตกต่างตามรถยนต์แต่ละรุ่นด้วย )
Exquisite Tailpipes ชุดตกแต่งปลายท่อไอเสีย
Akrapovic พิถีพิถันในการออกแบบชุดตกแต่งปลายท่อ เพื่อเน้นให้ปลายท่อไอเสียดูหรูหรา สวยงาม ด้วยการออกแบบชุดแต่งปลายท่อด้วยวัสดุชั้นเยี่ยม เหมาะสมกับรถหรูแต่ละรุ่น วัสดุหลักที่เลือกใช้ คือ ชุดแต่งปลายท่อด้วย Carbon fibre และชุดปลายท่อ Titanium alloy
Adjustable Sound การปรับแต่งระบบเสียง
Akrapovic ใช้เวลาในการพัฒนาและทดสอบเทคโนโลยีของท่อไอเสีย เพื่อให้ได้ระบบเสียงที่สมบูรณ์แบบ ในทุกสถานการณ์ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นในท้องถนน หรือในสนามแข่ง ด้วยระบบเสียงที่ทุ้มกังวาน ไม่แผดเผาจนดังเกินไป แต่ให้เสียงที่นุ่มลึกกังวาลอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Akrapovic พร้อมชุดอุปกรณ์ควบคุมสัญญาณเสียงแบบ Wireless kit ปรับระดับความดังของเสียงให้ดังค่อยหรือทุ้มกังวาลได้ด้วย Remote control ซึ่งติดตั้งภายในรถยนต์และสามารถถอดออกพกพาไปได้ทุกที่ ชุด Wireless Kit เป็น Option พิเศษให้เลือกเฉพาะรุ่นเท่านั้น

ชุดท่อไอเสีย Akrapovic พร้อมปรับแต่งและเพิ่มสมรรถนะสำหรับรถยนต์ชั้นนำระดับพรีเมี่ยม และรถ Super car ทุกรุ่น อาทิ Ferrari , Lamborghini , Porsche , BMW , Audi , VW , Mercedes-Benz AMG , MiNI , Renault , Nissan , Ford , Chevrolet .
ราคาจำหน่ายพร้อมติดตั้งชุดท่อไอเสีย Akrapovic ราคาขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่น เลือกติดตั้งตามโครงสร้างของตัวรถ
• ชุด Evolution Line ราคาเฉพาะรุ่น ตั้งแต่ 100,000 -500,000 บาท
• ชุด Slip- On-Line ราคาเฉพาะรุ่น ตั้งแต่ 70,000 – 350,000 บาท
• ชุด Tailpipe ตกแต่งปลายท่อด้วยวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์ / ไททาเนียม อัลลอยด์ ราคาชุดละ 25,000-55,000 บาท (ราคาเฉพาะรุ่น )
• ชุด Wireless Kit ควบคุมระดับเสียง ราคาชุดละ 15,000 – 45,000 บาท (ราคาเฉพาะรุ่น)

HRE Performance Wheels : ชุดล้อแม็กซ์ชั้นนำระดับโลก
สุดยอดสมรรถนะแห่งพลังในการขับเคลื่อน HRE ชุดล้อแม็กซ์สำหรับรถยนต์ชั้นนำและรถ Super car ระดับ โลก ผลิตและนำเข้าจากประเทศอเมริกา ด้วยโรงงานผลิตที่ทันสมัย พร้อมมาตรฐานการผลิตที่รับรองโดย สถาบัน TUV Germany
HRE Performance Wheels ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง 2 ชนิดคือ

HRE forged aluminum Wheels เป็นวัสดุหลักในการผลิตชุดล้อแม็กระดับพรีเมี่ยมซึ่งเป็น Forged aluminum ชนิดที่ดีที่สุด ซึ่งใช้ผลิตชิ้นส่วนของเครื่องบิน “ aerospace-grade 6061 – T6 forged aluminum “ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีน้ำหนักเบา ( light-weight ) และมีความทนทาน แข็งแกร่ง ทนความร้อนสูง ( high-strength performance ) พร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์ที่หรูหรา สวยงาม ( Best Style ) จึงทำให้เพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น
HRE Carbon Wheels เป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูงที่สุด ที่นำมาใช้ในการผลิตชุดล้อแม็ก HRE ซึ่งให้น้ำหนักที่เบามาก เพียงแค่ 6 กิโลกรัม/ วงล้อแม็กซ์ โดยผลิตเพียง 15 ชุดต่อปีเท่านั้น ให้เฉพาะลูกค้าที่ต้องการสั่งผลิตเท่านั้น ( custom made wheels )
HRE Performance Wheels มีให้เลือกเฉดสีมากกว่า 70 เฉดสี พร้อมรูปแบบดีไซน์ที่หลากหลาย ตอบสนองทุกสไตล์การขับขี่ อาทิ Motorsport Series , Street Series , Luxury Series และ style Vintage ทั้งนี้ การผลิตชุดล้อแม็กซ์ของ HRE จะผลิตตาม order ของลูกค้าเท่านั้น ( Custom made wheels )
HRE Performance Wheels มีขนาดวงล้อให้เลือกตั้งแต่ 17,18,19,20,21,22 นิ้ว สำหรับราคาจำหน่ายในรุ่น HRE Carbon Wheels ชุดละ 990,000 บาท และในรุ่น HRE Forged aluminum wheels ราคาแตกต่างกันตาม Series โดยเริ่มต้นราคาชุดละ 150,000 – 300,000 บาท
แวะชมและสัมผัสสุดยอดเทคโนโลยีท่อไอเสียอัจฉริยะ Akrapovic และ HRE Forged Wheels ได้ที่โชว์รูม Autozkin อาคารโฟล์คสวาเกน ถ.รามอินทรา 14 สอบถามเพิ่มเติมโทร.02-943-7111,086-568-2046 www.akrapovic.com , www.hrewheels.com

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Chevrolet Trax ปรับแต่งเพิ่มสไตล์มินิเอสยูวี ฝีมือของ Irmscher


สำนักแต่งจากประเทศเยอรมนี Irmscher เปิดตัวแผนการอัพเกรดรูปลักษณ์ของรถมินิเอสยูวี Chevrolet Trax เติมความโฉบเฉี่ยวสะดุดตามากกว่าเดิม

ตัวถังภายนอกสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยการใช้สีแดงสดทั่วทั้งคัน ติดตั้งที่จับเปิดประตูและกาบข้างโครเมียม ล้ออัลลอยลายห้าก้านคู่ขนาด 19 นิ้ว ลูกค้าสามารถเลือกเปลี่ยนมาใช้สปริงแบบสปอร์ตที่จะโหลดตัวรถให้เตี้ยลงกว่าเดิม 30 มม.ได้ พร้อมด้วยท่อไอเสียที่มีทั้งแบบสแตนเลสหรือสีดำด้าน ทรงกลมหรือวงรีให้เลือกสรร
ไม่มีการเปิดเผยภาพในห้องโดยสาร แต่ Irmscher ระบุว่ามีวัสดุมากมายหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามต้องการ รวมถึงวัสดุหนังเกรดพรีเมียม บันไดข้างประตูสแตนเลส พวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังและพรมปูพื้นแบบพิเศษ
เวลานี้ยังไม่มีการปรับแต่งขุมพลังขับเคลื่อน แต่ทาง Irmscher กำลังซุ่มพัฒนาแพ็คเกจอัพความแรงของเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตรที่วางอยู่ใน Trax ซึ่งจะมีพลังแรงกว่าสแตนดาร์ด 140 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตรอย่างแน่นอน

แต่งสไตล์เครื่องบินรบ BMW X6 M “Stealth” แรงระดับ 700 แรงม้า


สำหรับคนทั่วไป BMW X6 M ขุมพลัง 550 แรงม้านั้นแรงเพียงพอต่อการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง แต่ไม่ใช่สำนักแต่ง Inside Performance ที่ยังคงต้องการรีดแรงม้าและรูปลักษณ์ของเอสยูวีรหัสแรงรุ่นนี้

ผลงานชิ้นนี้มีชื่อว่า X6 M “Stealth” ตั้งชื่อตามสีสันของฟอยล์หุ้มตัวถังลายพรางเหมือนกับเครื่องบินรบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ มาพร้อมกับชุดบอดี้คิทของ AC-Schnitzer ผสมผสานกับชุดแต่งของ Vorsteiner เข้าไว้ด้วยกันทำให้ X6 M คันนี้มีมิติความกว้างมากกว่ารุ่นสแตนดาร์ดถึง 101.6 มม. นอกจากนี้ยังมีช่องดักอากาศบริเวณฝากระโปรงอีกด้วย
ในห้องโดยสาร X6 M Stealth ติดตั้งหน้าจอดิสเพลย์บนแผงแดชบอร์ด ซึ่งแสดงผลข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างทั้งแรงดันน้ำมัน แรงบิด แรงม้าและอุณหภูมิของทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง น้ำ ท่อไอเสีย อินเตอร์คูลเลอร์และท่อร่วมไอดี
สำหรับการอัพเกรดขุมพลัง Inside Performance ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการรีดแรงม้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 700 ตัว แรงบิดทะลุหลัก 850 นิวตันเมตร ด้วยการปรับจูนกล่อง ECU เพิ่มแคททาไลติกคอนเวอร์เตอร์แบบ 200 เซลส์และ “เคล็ดลับอื่นๆ” ที่ไม่เปิดเผย
Inside Performance ยังปลดล็อกความเร็วสูงสุดออกและติดตั้งระบบวาล์วคอนโทรลควบคุมเสียงเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยอัตราเร่งและความเร็วท็อปสปีดแต่อย่างใด

รถตู้ก็ซิ่งได้ Mercedes-Benz Viano แต่งสปอร์ตโดยสำนัก Wald International


รถตู้ขนาดใหญ่อย่าง Mercedes-Benz Viano หรือชื่อ V-Class ในตลาดญี่ปุ่น ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกสบายและมีพื้นที่ภายในกว้างขวางโอ่โถงเป็นหลัก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รูปลักษณ์อาจไม่สะดุดตาเท่าใดนัก

การเติมแต่งให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นอาจไม่ใช่งานง่าย แต่ก็ไม่คณามือของสำนักแต่ง Wald International แห่งญี่ปุ่นที่โชว์ผลงานการแต่งแนวโฉมเฉี่ยวมานับไม่ถ้วน ซึ่งล่าสุด หันมาปรับดีไซน์รถตู้เยอรมันขนาดใหญ่คันนี้ด้วยชุดอัพเกรดรอบคัน
จากภาพจะเห็นว่า Wald ยกระดับหน้าตาให้ดูหล่อเหลาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยชุดแพ็คเกจแอโรไดนามิก ทั้งกันชนหน้าพร้อมสปอยเลอร์ในตัว เดย์ไลท์ LED ซุ้มล้อแบบมีช่องระบายความร้อน สเกิร์ตด้านข้าง กันชนหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์ ท่อไอเสียคู่ ปิดท้ายด้วยสปอยเลอร์บนหลังคา
ไม่เพียงเท่านั้น Wald ยังติดตั้งชุดช่วงล่างโหลดเตี้ยลงเล็กน้อย พร้อมเซ็ทล้ออัลลอยลายสวย เติมเต็มความสปอร์ตได้อย่างลงตัว กระชากวัยลงมาได้อย่างทันตาเห็น

Mercedes-Benz E-Class โมดิฟายด์สปอร์ตเต็มพิกัดโดย German Special Customs


สำนักแต่ง German Special Customs เปิดเผยรายละเอียดและภาพชุดแรกของโปรเจ็คต์การปรับโฉม Mercedes-Benz E-Class รุ่นไมเนอร์เชนจ์ซึ่งมาพร้อมความสปอร์ตเต็มพิกัด

รูปลักษณ์ภายนอกถูกกระชากวัยลงมาอย่างทันตาเห็น มาพร้อมกับบอดี้พาร์ทรอบคัน ทั้งกันชนหน้าพร้อมสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้าทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกันเน้นน้ำหนักเบา พร้อมกับเปลี่ยนซุ้มล้อมาเป็นแบบมีร่องระบายอากาศและติดตั้งสเกิร์ตด้านข้างทรงโฉบเฉี่ยว
หันมาดูที่บั้นท้าย German Special Customs ติดตั้งสปอยเลอร์สีดำแนบอยู่บนฝากระโปรงหลัง ปลายท่อไอเสียสี่ชุดทรงเหลี่ยมแยกซ้ายขวาซุกอยู่ในกันชนหลังแบบสปอร์ตพร้อมด้วยแผงดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่
German Special Customs เตรียมนำเสนอชุดอัพเกรดเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดออกมาแต่อย่างใด

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แต่ง Mercedes-Benz CLA หล่อโดนใจและทรงพลังยิ่งขึ้นโดยสำนัก Brabus


Brabus สำนักแต่งเยอรมนีเปิดตัวชุดอัพเกรดรูปลักษณ์และหัวใจขับเคลื่อนของ Mercedes-Benz CLA ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หน้าตาภายนอกมีความโดดเด่นขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะล้ออัลลอย Monoblock ที่มีทั้งขนาด 18 นิ้วและ 19 นิ้ว พร้อมลวดลายถึงห้าแบบให้เลือกใช้ ทำงานคู่กับสปริงแบบสปอร์ต ส่วนบั้นท้ายติดตั้งปลายท่อไอเสียสี่ชุด
ทาง Brabus ไม่ได้เปิดเผยภาพในห้องโดยสาร แต่ระบุว่ามีวัสดุให้ลูกค้าเลือกตกแต่งหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้แตกต่างจากรุ่นสแตนดาร์ด
ในส่วนของสมรรถนะ Brabus ทำการติดตั้งชุดคิท “PowerXtra” ให้แก่รุ่น CLA250 รีดพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 245 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร มากกว่าเดิม 34 แรงม้าและ 35 นิวตันเมตร แต่ไม่ได้ระบุถึงตัวเลขอัตราเร่งแต่อย่างใด

2014 Chevrolet Corvette Stingray เตรียมรับหน้าที่รถนำการแข่งขัน Indy 500


Chevrolet Corvette Stingray อเมริกันมัสเซิลคาร์โฉมปี 2014 รุ่นใหม่ล่าสุดเตรียมรับบทบาทการเป็นรถนำหรือ Pace Car ในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง Indianapolis 500

Indy 500 ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการแข่งรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือ “The Greatest Spectacle in Racing” จะระเบิดความมันเป็นครั้งที่ 97 ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ถือเป็นครั้งที่ 12 ในรอบกว่า 30 ปีที่ Corvette ได้เป็นรถนำขบวนรถแข่ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1978
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Chevrolet เพิ่งประกาศค่าตัวของ Stingray เริ่มต้นที่ 51,995 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับรุ่นคูเป้และ 56,995 เหรียญฯสำหรับรุ่นเปิดประทุน หากลูกค้าควักกระเป๋าจ่ายเพิ่มอีก 2,800 เหรียญฯ จะสามารถติดตั้งแพ็คเกจ Z51 Performance Package ที่มาพร้อมการอัพเกรดสมรรถนะด้วยเฟืองท้ายอิเลกทรอนิก ช่วงล่างปรับปรุงใหม่ เบรกขนาดใหญ่ขึ้น อัตราทดเกียร์เร้าใจกว่าเดิม รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วที่ล้อหน้าและ 20 นิ้วที่ล้อหลัง
Chevrolet Corvette Stingray จะไม่มีปัญหาในการขับด้วยความเร็วสูงเพื่อนำรถแข่ง Indy Car อย่างแน่นอน เพราะขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V8 ความจุกระบอกสูบ 6.2 ลิตร ผลิตพละกำลัง 450 แรงม้า แรงบิด 609 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ต่ำกว่า 4 วินาที

Seat เปิดตัวแฮทช์แบ็กสายพันธุ์แข่ง Leon Cup Racer ขุมพลัง 330 แรงม้า


Seat เตรียมโชว์ตัว Leon Cup Racer รถแข่งรุ่นใหม่ล่าสุดที่งาน Wörthersee ในประเทศออสเตรีย ก่อนไล่ล่าความสำเร็จในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตฤดูกาล 2014 เป็นต้นไป

Leon Cup Racer พัฒนาต่อยอดจากรถโปรดักชั่น Leon โฉมห้าประตู ตัวถังสาดสีเทาเมทัลลิกแบบด้านสลับด้วยสีส้มสะดุดตา ล้ออัลลอยใช้ขนาด 18 นิ้ว พร้อมการโมดิฟายด์รูปลักษณ์รอบคันทั้งซุ้มล้อที่กว้างกว่าเดิม ขยายฐานล้อ ติดตั้งสปอยเลอร์บนหลังคาและแผงรีดอากาศใต้ท้องรถ
ในห้องโดยสารถูกถอดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อลดน้ำหนักให้มากที่สุด ก่อนติดตั้งโรลเคจนิรภัย เบาะบั๊กเก็ตซีท หน้าจอ TFT แสดงผลการทำงานของตัวรถและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
หัวใจขับเคลื่อนเป็นบล็อก 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ ผลิตพละกำลัง 330 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ DGS แบบ 6 สปีด ซึ่งตำแหน่งเกียร์ถูกติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลางเพื่อให้จับถนัดมือยิ่งขึ้น ถ่ายกำลังลงพื้นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมเฟืองท้ายดิฟเฟอเรนเชียลล็อกควบคุมด้วยอิเลกทรอนิก
“เราคาดหวังว่าจะสามารถนำเสนอ Leon Cup Racer ให้ลูกค้าชาวยุโรปได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2014 ขณะเดียวกัน ยังสามารถต่อยอดไปแข่งขัน WTCC (เวิล์ดทัวริ่งคาร์แชมเปี้ยนชิพ) ได้อีกด้วย” Jaime Puig ผู้อำนวยการ Seat Sport ผู้พัฒนารถแข่งคันนี้กล่าว ทั้งนี้ ราคาจำหน่าย Leon Cup Racer เริ่มต้นที่ 70,000 ยูโร

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฉลอง 50 ปี McLaren โชว์ตัว 12C GT Can-Am Edition พร้อมซูเปอร์คาร์คลาสสิก


McLaren เตรียมฉลองการดำเนินงานครบรอบ 50 ปีด้วยการนำรถซูเปอร์คาร์หลากหลายโมเดลออกโชว์ตัวที่งาน Goodwood Festival of Speed ในประเทศอังกฤษช่วงกลางปีนี้

ค่ายซูเปอร์คาร์จากเมืองผู้ดีไม่เปิดเผยรายละเอียดว่ามีรถรุ่นใดบ้าง แต่แย้มว่า “จะมีทั้งรถแข่งชื่อดังและรถแข่งที่คว้าแชมป์มาแล้วมากมายซึ่งสะท้อนความสำเร็จของแบรนด์ในอดีต” โดยจะออกโชว์ตัวเคียงข้างกับ 12C GT Can-Am Edition ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
McLaren ยังส่งวีดีโอสุดเร้าใจโชว์ตำนานรถแข่ง Can-Am Edition รวมถึง 12C GT Can-Am Edition ให้แฟนๆได้รับชมกันอีกด้วย
สำหรับ 12C GT Can-Am Edition ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยนตรกรรมที่ดิบที่สุดและเร้าใจที่สุดของ McLaren สำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง” มาพร้อมชุดบอดี้แอโรไดนามิกเต็มพิกัด ขุมพลังขับเคลื่อน V8 ความจุ 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ผลิตพละกำลัง 630 แรงม้า
ภายในเพียบพร้อมด้วยพวงมาลัยแบบสปอร์ต โรลเคจนิรภัย เบาะที่นั่งโอบกระชับแบบเรซซิ่งสีดำดุดันพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบหกจุด จำนวนการผลิตจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 582,040 เหรียญสหรัฐฯ

Nissan ให้คำมั่น “GT-R Nismo” เวอร์ชั่นใหม่จะแรงที่สุดในประวัติศาสตร์


Andy Palmer รองประธานบริหารฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ของ Nissan ออกมาให้ข่าวว่า GT-R Nismo ที่จะเผยโฉมอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นซูเปอร์คาร์ GT-R ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา

Palmer ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Autocar ของอังกฤษระบุว่า GT-R Nismo เวอร์ชั่นใหม่จะได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์เน้นให้มีความลู่ลมและสร้างแรงกดตามหลักแอโรไดนามิก ขณะที่ช่วงล่างก็จะมอบอารมณ์การขับขี่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม ฝีมือการปรับจูนของทีมแข่ง Nismo ที่พัฒนารถแข่งเข้าร่วมรายการ Super GT Series ของประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง
รองประธานบริหารของยักษ์ญี่ปุ่นรายนี้ปฏิเสธที่จะบอกตัวเลขพละกำลัง แต่เน้นย้ำว่าซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับ “พลังที่มากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด”
นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ V6 ความจุกระบอกสูบ 3.8 ลิตรจะผลิตพละกำลังมากกว่า 542 แรงม้า “GT-R รุ่นสแตนดาร์ดทำเวลารอบสนามเนอร์เบิร์กริงได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เราหวังว่าจะลดเวลานั้นลงด้วย GT-R Nismo รุ่นใหม่” Palmer กล่าว
ข่าวรายงานว่า Nissan GT-R Nismo อาจเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานโตเกียว มอเตอร์โชว์ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ แฟนพันธุ์แท้ไม่ควรพลาดเกาะติดข่าวความเคลื่อนไหวต่อไป

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

Toyota Super 86 แปลงโฉมสปอร์ตคูเป้ GT86 กลายเป็นรถแข่งไต่เขา


Monster Sport สำนักโมดิฟายด์รถแข่งจากญี่ปุ่นเปิดตัว Toyota Super 86 รถแข่งรุ่นล่าสุดที่เตรียมประลองความเร็วในการแข่งขันไต่เขาชื่อก้องโลก Pikes Peak International Hill Climb ในโคโลราโด สหรัฐอเมริกา

สำหรับผู้ขับขี่เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าสำนัก Nobuhiro Tajima ผู้มีฉายาว่า “Monster” โดยจะลงแข่งขันในคลาส Unlimited ซึ่งจะฟาดฟันกับสุดยอดรถแข่งอีกหนึ่งรุ่น Peugeot 208 T16 Pikes Peak ขับโดยแชมป์โลกแรลลี่ WRC หลายสมัยอย่างเซบาสเตียน โล๊บ ซึ่งเราเคยนำเสนอไปแล้ว
Super 86 คันนี้ประกอบด้วยโครงสร้างสเปซเฟรมเหล็กและตัวถังคาร์บอนเคฟลาร์คอมโพสิท ขุมพลังขับเคลื่อนใช้บล็อก V6 ความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ผลิตพละกำลัง 670 แรงม้า แรงบิด 809 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ซีเควนเชียล 6 สปีด
ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอัตราเร่ง แต่ดูแล้ว Super 86 ที่มีน้ำหนักตัวเพียง 1,080 กก.คันนี้จะสามารถ “บิน” ขึ้นเขาได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ค่ายแต่งรถ Vath เสนอไอเดียชุดแต่ง “Mercedes Benz C63 AMG Coupé Black Series” ชุดเดียวได้ครบ


ในเริ่มแรกนั้น Mercedes-Benz ได้นำเราไปชมกับเจ้ารถขนาด 451 แรงม้าของรถอย่าง C63 AMG Coupe ที่มาพร้อมกับชุดแต่ง AMG Performance package มีเพิ่มกำลังไปจนถึง 480 แรงม้า
จากนั้นได้ปรับเปลี่ยนให้ทรงพลังมากขึ้นด้วยการปรับแต่งและใช้ Black Series edition ที่มีกำลัง 510 แรงม้า และจากนั้นยังไม่พอทาง Mercedes ได้เพิ่มทางเลือก 2 แพ็คเกจด้วยกันในส่วนของ Aerodynamics และ Track kits ที่ทำมาจาก carbon ที่มีน้ำหนักเบาทั้งหมด

ล่าสุดนั้นทาง Mercedes-Benz’s ได้เสนอไอเดียแจ่มๆทีจะปรับแต่งรถทั้งหมดภายในทีเดียวด้วยการนำ C63 AMG Coupe Black Series Edition มาใส่ชุดแต่งจาก Vath ค่ายแต่งรถยักษ์ใหญ่เพื่อแต่งรถทั้งหมดในครั้งเดียว
ชุดอัพเกรดหลักของค่ายแต่งรถรายนี้นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบบ Turbocharger ที่มาพร้อมกับท่อไอเสียแบบสปอร์ตกำลังทั้งสิ้น 746 แรงม้า ทำให้เจ้า Black Series model นั้นมีอัตราเร่งจาก 0-100km/h ภายใน 3.6 วินาทีและมีความเร็วสูงสุด 350 km/h ด้วยกัน
สำหรับชุดแต่งใหม่นี้มีราคา €49,310 (หรือประมาณ US$64,900) จะมาพร้อมกับช่วงล่างแบบใหม่ทั้งหมดที่มีความสูงเลือกได้ระหว่าง 20-65mm ล้อแมกซ์อัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วแบบพิเศษที่มาพร้อมกับยาง 265/30-20 ทางด้านหน้าและ 305/25-20 ทางด้านหลังปิดท้ายด้วยชุดแบรคแบบคุณภาพที่มาพร้อมจานเบรคสีแดง

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โมดิฟายด์ BMW M3 ขุมพลัง V8 รีดพลัง 655 แรงม้าโดยสำนัก Manhart


BMW M3 Cabrio รถสปอร์ตเปิดประทุนรหัสตัวถัง E92 ถูกแปลงโฉมโดยสำนักแต่ง Manhart กลายเป็นรถอันทรงพลังระดับเดียวกับซูเปอร์คาร์ในชื่อรุ่น MH3 V8 R Biturbo ออกโชว์ตัวครั้งแรกที่งานแสดงรถแต่งเอสเซน มอเตอร์โชว์ 2012 ในเยอรมนี

ก่อนหน้านี้ Manhart เคยโชว์ผลงานการโมดิฟายด์ BMW M5 มาแล้ว สำหรับครั้งนี้ใช้แนวคิดเดียวกันคือการอัพเกรดหัวใจขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นบล็อก V8 ความจุกระบอกสูบ 4.4 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศทวินเทอร์โบรุ่นเดียวกับที่วางอยู่ในครอสโอเวอร์ BMW X6 M พร้อมทำการปรับจูนระบบซอฟท์แวร์ใหม่ ทำให้มีพละกำลังสูงสุด 655 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 955 นิวตันเมตร
ไม่เพียงเท่านั้น ยังติดตั้งระบบไอเสีย Akrapovic Evolution Titanium ท่อกลางแบบสปอร์ตและปลายท่อสี่ชุดขนาด 90 มม. ระบบเบรกมั่นใจเต็มที่ด้วยดิสก์เบรกแบบเจาะรูระบายความร้อนขนาด 396 มม.ที่ล้อหน้าและ 374 มม.ที่ล้อหลัง มาพร้อมคาลิปเปอร์ขนาด 4 สูบ Manhart ยังปลดล็อกความเร็วสูงสุดเพื่อให้ MH3 V8 R Biturbo คันนี้สามารถทะยานไปได้ถึง 320 กม./ชม.
ระบบเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมเฟืองท้าย limited slip differential ช่วยกระจายแรงบิดอย่างสมดุล ล้ออัลลอยคู่หน้ามีขนาด 20 นิ้วหน้ากว้าง 9 นิ้วพร้อมยาง 255/35 ZR20  ขณะที่คู่หลังใช้ขนาด 20 นิ้วหน้ากว้าง 12 นิ้วสวมทับด้วยยางไซส์ 305/25 ZR20 ช่วงล่างเกาะถนนแน่นหนึบด้วยชุดช็อกอัพและสปริง KW ที่สามารถปรับระดับสูงต่ำและความหนืดได้

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Porsche 911-Based GT9 Vmax เปิดตัวพร้อมเครื่องทรงพลัง


หากพูดถึงการสร้างรถอย่าง Porsche ที่ทรงพลังนั้นคงไม่มีใครเกินค่ายรถจากเยอรมันอย่าง Germany’s 9ffที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาใครและตอนนี้พวกเขาจะมาในชื่อ GT9 ที่จะทำการเปิดตัวในสัปดาห์หน้าในงาน 2012 Essen Motor Show

The GT9 Vmax นั้นเป็นรถรุ่นใหม่ของ 9ff’s supercar ที่ทำก่อนหน้า Porsche 911 สำหรับเครื่องยนต์ของ GT9 รุ่นดั้งเดิมนั้นมีกำลัง 750-973 แรงม้า และในส่วนของ GT9-R นั้นจะเพิ่มไปถึง 1,120 แรงม้าเลยทีเดียวที่มาพร้อมเครื่องขนาด 4.2 ลิตรแบบ twin-turbocharged
สำหรับรุ่นตัวกลางนั้นจะมาพร้อมเกียร์แบบ 6 สปีด ทั้งยังใช้พวงมาลัยแบบควมคุมด้วยระบบ shift paddles ทำความเร่งจาก 0-100km/h ภายในเวลา 3.1 วินาทีและ 0-200km/h ภายใน 6.8 วินาทีปิดท้ายด้วย 0-300km/h ภายใน 13 วินาที
9ff’s supercar นั้นมีน้ำหนักรวม 1.340kg หรือ 2,954 pounds ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 437km/h หรือ 272 ไมล์เลยทีเดียว ส่วนสนนราคาของ GT9 Vmax’s นั้นเริ่มต้นที่ €895,000 โดบไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม





GM เปิดตัวรถแข่งรุ่นใหม่ “2013 Chevrolet SS NASCAR” เอาใจขาซิ่ง


ตามสัญญาของทาง Chevrolet นั้นได้ออกรถรุ่นใหม่อย่าง 2013 NASCAR Chevrolet SS racecar ซึ่งเป็นรถแข่งตัวล่าสุดที่เปิดตัวในงานแสดงรถยนต์อย่าง Las Vegas Auto Show ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของรถแข่ง NASCAR ก็ยังสามารถชมการออกแบบของค่ายนี้ได้อย่างรถ 2014 Chevrolet SS รุ่นใหม่ล่าสุด


เจ้ารถ NASCAR racers คันนี้นั้นมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะบางอย่างภายนอกเล็กน้อยรวมถึงติดสติ๊กเกอร์ลวดลายสีสันน่ารักลงไปที่มีลักษณะคล้ายกับไฟของตัวรถเพื่อเข้าถึงรถแข่งแบบ NASCAR Model อย่างเต็มที่
“ในฐานะที่ผมนั้นเป็นแฟนพันธ์แท้ การแข่งขันในการเปิดตัวของรถ SS NASCAR นั้นเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงสำหรับผม” Mark Reuss ประธานของ GM North America เผย

“ด้วยการที่ SS Chevrolet นั้นเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังของรถแบบ NASCAR race ที่มีความใกล้เคียงกันกับรถ sedan ที่ขายอยู่ในท้องตลาดเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของเขานั้นจะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดและชื่นชอบรถคันนี้และรับประสบการณ์สุดพิเศษที่แสนตื่นเต้นไปด้วย”
ตัวรถนั้นจะเป็นรถแบบขับเคลื่อนล้อหลังขนาดกลางแบบ mid-size sports sedan ที่เปิดตัวด้วย Holden VF Commodore และเครื่องยนต์แบบ V8 engine ซึ่งไม่ต่างกันในแง่ของราคาเลย
ทาง Chevrolet นั้นเผยว่าเป็นครั้งแรกของรถแบบ Seden ที่ขับเคลื่อนล้อหลังในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1996 จะมาถึงเป็นรูปแบบการผลิตรุ่นนี้โดยมีแผนจะวางจำหน่ายกับตัวแทนจำหน่ายในช่วงปลายปีต่อไป











วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

SpeedART เปิดเผยการตกแต่งภายในรถ “Boxster 981′s” ให้ชมก่อนโชว์ตัวจริง


หลังจากมีการเผยแพร่ภาพและรายละเอียดภายนอกตัวรถและการปรับแต่งสมรรถนะของเจ้ารถอย่าง Porsche Boxster (codenamed 981) รุ่นใหม่ไปแล้วโดยใช้ชุดแต่งของทาง SpeedART ค่ายแต่งรถจากเยอรมันล่าสุดพวกเขาก็ได้เปิดเผยว่าทำอะไรไว้ให้กับภายในของเจ้า roadster model คันนี้บ้าง
SpeedART’s จะได้แพ็คเกจแบบปกติในการตกแต่งภายใน โดยห้องโดยสารจะนำสีเดียวกันกับที่ใช้อยู่ด้านนอกมาเป็นโทนสีหลักจากนี้ยังใช้วัสดุหนังแท้และ Alcantara โดยสามารถนำมาแมทซ์ซึ่งกันและกันให้กับเบาะโดยสาร , พวงมาลัย และแผงประตูทั้งหมด

นอกจากนี้ยังเพิ่มรายละเอียดในส่วนของการตัดเย็บผ้าให้ยึดติดกันบริเวณขอบพวงมาลัยและฮับ รวมถึงที่นั่งและคันเกียร์ตรงกลาง และปิดท้ายด้วยสีสันสดใสในบริเวณคอนโซลกลางรถและหน้าปัดทั้งหมด
การตกแต่งภายในนั้นทาง SpeedART ได้นำแพ็คเกจแบบ SP81-R ตัวใหม่มาใช้ตกแต่งด้วยสำหรับ Boxster รุ่นใหม่นี้และมีแผนการจะโชว์ตัวแก่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในงาน Essen Motor Show ในเดือนหน้านี้ที่ประเทศเยอรมัน