วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

สิ้นสุดการคาดเดา! “LaFerrari” 2013 ซูเปอร์คาร์ตัวท็อป 963 แรงม้าเผยโฉมแล้ว


นับถอยหลังกันมานานหลายเดือน ในที่สุดซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุดของค่าย Ferrari ตัวตายตัวแทนของรุ่น Enzo ก็ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อรุ่นเหนือความคาดหมายว่า “LaFerrari” โชว์ตัวครั้งแรกในโลกที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์

LaFerrari ใช้หัวใจขับเคลื่อนลูกผสมระหว่างบล็อก V12 ความจุ 6,262 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 800 แรงม้าที่ 9,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบ/นาที ประกบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพ่วงระบบสำรองพลังงาน HY-KERS ที่ผลิตพละกำลังอีก 163 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร ปล่อยมลพิษแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 330 กรัม/กม.
เมื่อผนวกรวมระบบขับเคลื่อนทั้งสองแบบเข้าไว้ด้วยกันทำให้ LaFerrari มีพละกำลังสูงสุดถึง 963 แรงม้า ลากรอบเครื่องได้แตะระดับ 9,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ DCT แบบ 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที หากเร่งจากหยุดนิ่งถึง 200 กม./ชม.ทำได้ต่ำกว่า 7 วินาที ขณะที่อัตราเร่ง 0-300 กม./ชม.เพียงชั่วอึดใจ 15 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดทะยานไปได้มากกว่า 350 กม./ชม.
ซูเปอร์คาร์รุ่นท็อปโมเดลล่าสุดของ Ferrari คันนี้มีขนาดตัวถังยาว 4,702 มม.กว้าง 1,992 มม.และสูงเพียง 1,116 มม.เท่านั้น ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,665 มม. น้ำหนักมวลรวม 1,255 กก. มีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังอยู่ที่ 41% ต่อ 59%
ช่วงล่างด้านหน้าของ LaFerrari ใช้แบบปีกนกคู่ดับเบิลวิชโบน ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ ล้ออัลลอยขนาดกำลังดี 19 นิ้วที่คู่หน้าหุ้มยาง 265/30 และ 20 นิ้วที่ด้านหลังสวมทับด้วยยาง 345/30
ระบบเบรกเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบันด้วยวัสดุคาร์บอนเซรามิกของแบรนด์ Brembo ดิสก์เบรกขนาด 398 มม.และ 380 มม.ที่ด้านหน้าและด้านหลังตามลำดับ มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC เวอร์ชั่นล่าสุด ระบบป้องกันการลื่นไถล EF1-TRAC (เทคโนโลยีเอฟ 1 ทำงานร่วมกับระบบไฮบริด) เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปเจนเนอเรชั่นที่สามและช็อกอัพเทคโนโลยีล้ำ magnetorheological พร้อมโซลินอยด์ไฟฟ้าสองตัว
Ferrari ยืนยันว่าจะผลิต LaFerrari เพียง 499 คัน แต่ไม่ได้เปิดเผยกำหนดการส่งมอบรถแต่อย่างใด รายงานข่าวบางชิ้นระบุว่าลูกค้าจะได้รับซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป โดยเวลานี้มียอดจองเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะหมดเกลี้ยงในไม่ช้าหลังจากเปิดตัวที่เจนีวา ใครอยากได้ต้องรีบหน่อย เพียงควักกระเป๋าจ่ายค่าตัว 1.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น