วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ยอดขายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน ขาย 148,243 คัน เพิ่มขึ้น 477.6%


ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน ขาย 148,243 คัน เพิ่มขึ้น 477.6% 11 เดือนขาย 1,291,659 คัน เพิ่มขึ้น 74.7%
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2555 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 148,243 คัน เพิ่มขึ้น 477.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 77,743 คัน เพิ่มขึ้น 509.9% รถเพื่อการพาณิชย์ 70,500 คัน เพิ่มขึ้น 445.8% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 60,805 คัน เพิ่มขึ้น 621.2%

ประเด็นสำคัญ
1.) ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีปริมาณการขาย 148,243 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายต่อเดือนอีกครั้ง มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 477.6% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 77,743 คัน เพิ่มขึ้น 509.9% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 70,500 คัน เพิ่มขึ้น 445.8% อัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นมากนั้นส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากเดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ตลอดจนความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเร่งใช้สิทธิ์นโยบายรถยนต์คันแรก และการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของทุกค่ายรถยนต์ทำให้สามารถส่งมอบรถยนต์ได้มากขึ้น
2.) ตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือน มีปริมาณการขาย 1,291,659 คัน เพิ่มขึ้น 74.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 79.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 70.5% เนื่องจากความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากตั้งแต่ต้นปีประกอบกับทุกค่ายรถยนต์สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้สูงขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ปีนี้สร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง
3.) ตลาดรถยนต์ในเดือน ธันวาคม เติบโตต่อเนื่อง ปัจจัยหลักคือการเร่งใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกให้ทันภายในปีนี้ และการรับจองของค่ายรถยนต์จากงาน มอเตอร์เอกซ์โปที่มียอดจองกว่า 85,000 คัน ประกอบกับยอดค้างจองสะสมทั้งจากรถยนต์รุ่นยอดนิยม และรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2555
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 148,243 คัน เพิ่มขึ้น 477.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 46,014 คัน เพิ่มขึ้น 1,037.0% ส่วนแบ่งตลาด 31.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 23,036 คัน เพิ่มขึ้น 628.5% ส่วนแบ่งตลาด 15.5%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 21,724 คัน เพิ่มขึ้น 738.1% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 77,743 คัน เพิ่มขึ้น 509.9%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 21,495 คัน เพิ่มขึ้น 658.2% ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 20,372 คัน เพิ่มขึ้น 857.8% ส่วนแบ่งตลาด 26.2%
อันดับที่ 3 นิสสัน 14,117 คัน เพิ่มขึ้น 425.6% ส่วนแบ่งตลาด 18.2%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 60,805 คัน เพิ่มขึ้น 621.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 23,733 คัน เพิ่มขึ้น 2,215.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 19,872 คัน เพิ่มขึ้น 879.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 7,026 คัน เพิ่มขึ้น 118.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 7,270 คัน
โตโยต้า 4,116 คัน – มิตซูบิชิ 1,605 คัน – เชฟโรเล็ต 883 คัน – อีซูซุ 638 คัน – ฟอร์ด 28 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 53,535 คัน เพิ่มขึ้น 673.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,617 คัน เพิ่มขึ้น 1,941.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 19,234 คัน เพิ่มขึ้น 945.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 5,421 คัน เพิ่มขึ้น 162.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.1%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 70,500 คัน เพิ่มขึ้น 445.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,585 คัน เพิ่มขึ้น 1,232.6% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 21,724 คัน เพิ่มขึ้น 738.1% ส่วนแบ่งตลาด 30.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 7,026 คัน เพิ่มขึ้น 118.6% ส่วนแบ่งตลาด 10.0%

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น