ชื่อของมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย นั้น อาจจะเริ่มได้ยินและเป็นที่รู้จักกันในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์ขนาดใหญ่ที่มีอายุมานานกว่าทศวรรษ
ธุรกิจที่ดำเนินการภายใต้กลุ่มนี้ ประกอบไปด้วย มิลเลนเนียม ออโต้ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าอย่างพัฒนาการ ฮอนด้า ออโตโมบิล รวมไปถึงธุรกิจจำหน่ายรถยนต์หรูหราอย่างโรลส์-รอยซ์และแอสตัน มาร์ติน ก็อยู่ในร่มเงาของกลุ่มนี้ทั้งสิ้น รวมไปถึงธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองหลากหลายยี่ห้อ
นอกจากนี้ เอ็มจีซี-เอเชียยังดำเนินธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล ซึ่งเป็นพันธมิตรกับผู้ให้เช่ารถระดับโลกอย่างซิกท์ มีธุรกิจให้บริการบำรุงรักษารถยนต์ ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย รวมถึงบริการระบบหลังบ้านอย่างไอทีและคอลล์เซนเตอร์ และศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร
ด้วยยอดรายได้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะคิดว่านี่คือธุรกิจที่สมบูรณ์แบบและรอการเติบโตเพียงอย่างเดียวก็พอแล้ว แต่กับผู้กุมบังเหียนองค์กรอย่าง ดร.จุ๋ย – สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม เอ็มจีซี-เอเชีย บอกว่ายังไม่เพียงพอหากต้องการแข่งขันในระดับอาเซียน
“จริง ๆ แล้วกลุ่มธุรกิจยานยนต์ขนาดใหญ่ในอาเซียนก็มีไม่กี่รายที่ใหญ่จริง ๆ เราก็มีแนวทางในการพัฒนาองค์กรที่ชัดเจนที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจรในอาเซียน ซึ่งยังมีสิ่งที่เราต้องเดินหน้าขยายและปรับปรุงแผนงานอีกมาก”
ดร.จุ๋ยบอกว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าหรือในปี พ.ศ.2561 เอ็มจีซี-เอเชียของเขาตั้งเป้าหมายที่จะเป็นกลุ่มบริษัทฯ ที่มีรายได้กว่า 5 หมื่นล้านบาทและมีโครงข่ายธุรกิจทั่วในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเห็นการออกสู่ภูมิภาคอาเซียนด้วยธุรกิจรถเช่า และอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการธุรกิจอื่น ๆ ที่จะขยายตัวตามออกไป
ทั้งนี้ เขาประเมินว่าจะมีโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วง 5 ปีนี้อีก 48 โครงการ ภายใต้เอ็มจีซี-เอเชีย เพื่อที่จะมาเติมเต็มความฝันในการบุกออกสู่ภูมิภาคอาเซียนของเขาให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยจะมาจากทั้งการต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีอยู่และการเดินหน้าหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
“เป้าหมายของเราคือการสร้างเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครบวงจร อะไรที่ขยายออกไปได้เราก็จะทำ ยกเว้นในเรื่องของการเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ไม่เคยอยู่ในความคิดของผม เพราะเราไม่มีความรู้และเทคโนโลยีในด้านนี้”
MA2014_Cover
เมื่อถามว่าจะต้องมีการลงทุนอีกมากน้อยเพียงใด ดร.จุ๋ยตอบว่าไม่สามารถระบุได้ทั้งหมด เนื่องจากต้องคำนึงถึงราคาที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ ปี โดยเขาเชื่อว่าหลังเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ราคาที่ดินในประเทศไทยน่าจะสูงขึ้น เพราะต่างชาติจะเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจในอาเซียน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 นี้ เอ็มจีซี-เอเชีย จะมีการลงทุนด้วยงบประมาณไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทในหลายโครงการ ยกตัวอย่างเช่น การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการของหลากธุรกิจในเครือที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท
หรือการทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการเปิดศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ ที่มีเป้าหมายจะให้เป็นศูนย์ที่บริการได้ถึงกลุ่มรถยนต์ซูเปอร์คาร์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจรถเช่าก็จะมีการต่อยอดออกไปเป็นผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่เกี่ยวข้อง
“เราคงไม่ปิดโอกาสทางธุรกิจของตัวเอง แต่ผมมีแนวคิดว่าเราจะไม่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องและทับซ้อนกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ถ้าถามเรื่องแบรนด์รถยนต์ใหม่ ๆ บอกได้ว่ามีคนเข้ามาคุยกับเราหลายราย แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ ถ้ามีอะไรจะประกาศอย่างชัดเจน”
สัณหวุฒิกล่าวว่านอกเหนือจากการขยายธุรกิจแล้ว เอ็มจีซี-เอเชีย จะเดินหน้าในการพัฒนาธุรกิจออกไปสู่หัวเมืองขนาดใหญ่ทั่วประเทศไทยมากขึ้น เริ่มจากอุบลราชธานี จากนั้นก็จะพัฒนาไปตามภูมิภาคต่าง ๆ เนื่องจากมองว่าในอนาคต หัวเมืองเหล่านี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตในแต่ละภูมิภาค ไม่ได้เติบโตเฉพาะในกรุงเทพมหานครเหมือนที่ผ่านมา
A-Square Showroom
อย่างไรก็ตาม สำหรับในองค์กรที่มีการพัฒนานำมืออาชีพมารับหน้าที่ในการบริหารเพิ่มเติมนั้น เขาบอกว่าทำให้ภาพของธุรกิจครอบครัวจางลงไป แต่มองว่าในอนาคตอีกสัก 2 ปี อาจจะต้องมีการปรับองค์กรให้มีความกระชับและแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่วางไว้
“ผมเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังแข็งแกร่ง แม้จะมีปัญหามากระทบบ้างก็ตาม แต่พื้นฐานของเรายังค่อนข้างดี การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะก่อประโยชน์ให้กับในภูมิภาคนี้มาก แต่ก็คงต้องใช้เวลา ซึ่งผมคิดว่าหลังเปิดไปแล้ว 3 ปีคือในปี 2561 จะเป็นปีที่เรารับรู้ถึงเขตประชาคมเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันนั้น เอ็มจีซี-เอเชีย คงพร้อมที่จะก้าวสู่ภูมิภาคอาเซียนเช่นกัน”