วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Ford ประเทศไทย ตั้งเป้าขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ 140 แห่ง ภายในปีหน้า


ฟอร์ด ประเทศไทย รุกหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ มุ่งยกระดับการให้บริการเหนือระดับแก่ลูกค้า

- ฟอร์ด ตั้งเป้าขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 140 แห่งภายในสิ้นปี พ.ศ. 2556
- ฟอร์ด มุ่งปรับปรุงภาพลักษณ์ของโชว์รูมและศูนย์บริการให้ตรงตามมาตรฐานระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Brand@Retail” เพื่อสร้างความพึงพอใจในการบริการที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้แก่ลูกค้า
- ฟอร์ด ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอค่าบำรุงรักษาตามระยะที่ประหยัดกว่าคู่แข่งในตลาด และสร้างความอุ่นใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศแผนรุกขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายเครือข่ายให้ครบ 140 แห่งภายในสิ้นปี 2556
ฟอร์ด เดินหน้าปรับปรุงภาพลักษณ์ของโชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อสร้างความพึงพอใจในการบริการที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้แก่ลูกค้า
คุณยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด ฝ่ายขายและบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “เราใส่ใจและให้ความสำคัญในคุณภาพของการให้บริการเทียบเท่ากับคุณภาพของรถยนต์ฟอร์ดทุกคัน เรามีความตั้งใจที่จะเปิดตัวรถยนต์อีกหลากหลายรุ่นทั้งรถยนต์โดยสารและรถกระบะสู่ตลาดประเทศไทย ฐานลูกค้าของเราก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นในการพัฒนาและขยายเครือข่ายศูนย์บริการที่ดีมีมาตรฐานระดับโลกเพื่อรองรับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนี้ด้วย”
นอกเหนือจากการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึงและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าแล้ว ฟอร์ดยังสานต่อในการพัฒนาและปรับปรุงภาพลักษณ์โชว์รูมให้ได้มาตรฐานระดับโลกภายใต้คอนเซ็ปท์ Brand@Retail ซึ่งมีการจัดวางและตกแต่งพื้นที่ๆให้ความสะดวกสบายพร้อมบรรยากาศอย่างเป็นกันเองสำหรับลูกค้าที่เข้ามารับบริการของเรา
ส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานโชว์รูม คือการที่ฟอร์ดจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในแต่ละที่ เพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไปพร้อมกับพัฒนาคุณภาพของพนักงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในโชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดทุกแห่งทั่วประเทศ
คุณณรงค์ สีตลายน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้จำหน่ายบริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ จะได้รับการพัฒนาปรับปรุงภาพลักษณ์ให้อยู่ในมาตรฐานและให้ความรู้สึกเดียวกันในแบบของ One Ford ทุกที่ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2556”
ในช่วงปีที่ผ่านมา ฟอร์ดยังได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโชว์รูมและศูนย์บริการแต่ละแห่ง รวมถึงการจัดฝึกอบรมพนักงานใหม่ทุกระดับภายในโชว์รูมและศูนย์บริการเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานการบริการระดับโลกที่เรียกว่า Quality Care ของฟอร์ด
“การขยายเครือข่าย ตลอดจนการพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการของผู้จำหน่ายของเราในครั้งนี้ จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของเรา รวมถึงปรับปรุงวิธีการนำเสนอสินค้าและเพิ่มประสบการณ์ความพึงพอใจโดยรวมของลูกค้า” คุณณรงค์กล่าวเพิ่มเติม
ค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาตามระยะที่ประหยัดที่สุดในตลาด
ความสำเร็จของฟอร์ดในการขยายตลาดในประเทศไทยมาจากรถฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ และฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรถฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้
ทั้งนี้ รถฟอร์ดในแต่ละรุ่นเป็นรถที่มีค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาตามระยะที่ประหยัดที่สุดเมื่อเทียบกับรถในรุ่นเดียวกัน ซึ่งทำให้รถยนต์ฟอร์ดเป็นรถที่มีความน่าสนใจสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่ของฟอร์ดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่เป็นรถที่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทุกๆ 15,000 กิโลเมตรที่ประหยัดกว่าคู่แข่งในตลาดรถขนาดเล็ก รวมถึงราคาของชิ้นส่วนอะไหล่ที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาดร้อยละ 20 โดยเฉลี่ย
นอกจากนี้ ค่าบำรุงรักษาตามรักษาตามระยะของรถฟอร์ดในระยะ100,000 กิโลเมตรหรือ 5 ปี ก็ประหยัดกว่าคู่แข่งโดยทั่วไปสูงถึงร้อยละ 76 สำหรับ ฟอร์ด เฟียสต้า ร้อยละ 43 สำหรับฟอร์ด โฟกัส ใหม่ และร้อยละ 10 สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่*
“ลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศ เริ่มรับรู้ว่าฟอร์ดได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการบริการและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา โดยที่ลูกค้าสามารถรักษารถให้อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า และช่วยประหยัดได้มากในระยะยาว” คุณยุคนธร กล่าวเสริม
บริการหลังการขายระดับโลกพร้อมแคมเปญใหม่อันหลากหลาย
รถของฟอร์ดทุกคันได้รับการส่งเสริมด้วยบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม และแคมเปญใหม่ๆมากมาย ที่เพิ่งเปิดตัวไปก็คือ “โมบาย เซอร์วิส ยูนิต” หรือหน่วยบริการเคลื่อนที่ เป็นบริการล่าสุดที่ฟอร์ดได้แนะนำเพื่อเพิ่มคุณภาพของโปรแกรมการดูแลลูกค้าในประเทศไทย
ฟอร์ดได้เปิดตัวบริการ “โมบาย เซอร์วิส ยูนิต” ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยโปรแกรมนี้ ประกอบไปด้วยรถให้บริการเคลื่อนที่จำนวน 84 คัน ที่พร้อมให้บริการตรวจเช็คขั้นพื้นฐานแก่ลูกค้าฟอร์ดในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงการใช้เพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Emergency Roadside Assistance) แก่ลูกค้าฟอร์ด
นอกจากนั้น ฝ่ายบริการลูกค้าของฟอร์ดยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการบริการที่สร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมการบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ )Scheduled Maintenance Service หรือ SSP) และโปรแกรมขับขี่อุ่นใจ (Premium Protection Plus หรือ PPP) ที่แนะนำให้ลูกค้านำรถเข้าตรวจเช็คสภาพตามมาตรฐานและแผนการบริการของฟอร์ด ซึ่งจะช่วยลดค่าบำรุงรักษาตามระยะยาวได้และมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
“เราต้องการให้ลูกค้าเข้าใจว่าการเป็นเจ้าของรถฟอร์ดเป็นจุดเริ่มต้นของความสบายใจในการใช้บริการหลังการขาย เราขอยืนยันว่ามาตรฐานการบริการของเราจะอยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับรถของเราที่ได้รับการผลิตขึ้นภายใต้กลยุทธ์ One Ford นั่นก็คือความเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน” คุณอดิศักดิ์ หวังพงษ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริการลูกค้า ฟอร์ด อาเซียน กล่าว
“ฟอร์ด ยังคงยึดมั่นในการมอบบริการที่ดีเลิศ ด้วยการรับพนักงานที่มีคุณภาพพร้อมให้การฝึกอบรมทางเทคนิคเพื่อให้เกิดพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสรรสร้างโปรแกรมสำหรับการบริการหลังการขายใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ และไม่ลืมที่จะพัฒนาบริการที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้นไป เพื่อทำตามทุกคำสัญญาที่เราให้ไว้กับลูกค้าของเรา” คุณอดิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
ประเทศไทยจะยังคงเป็นศูนย์กลางทางการผลิตและส่งออกของฟอร์ด โดยการผลิตรถที่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน One Ford การขยายและพัฒนาเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย รวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการของฟอร์ดแสดงถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการเดินหน้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
หมายเหตุ: *ฟอร์ด เฟียสต้า 1.6 ลิตร, ฟอร์ด โฟกัส 1.6 ลิตรและฟอร์ด เรนเจอร์ ไฮ ไรเดอร์ 2.2 ลิตร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น